นายวรวิศว์ วีรคเชนทร์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ.เจ.พลาสท์ (AJ) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก จากปีก่อนที่มีรายได้ 7.8 พันล้านบาท เป็นไปตามอุตสาหกรรมแผ่นฟิล์มที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมามีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 7-8% ตามการบริโภคที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
นอกจากนี้บริษัทยังมองการขยายตลาดใหม่ๆเพิ่มเติมอีก ในประเทศที่มีการส่งออกอยู่แล้ว เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นประเทศแถบเอเชียใต้ ,ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นต้น เพื่อเพิ่มยอดขายในต่างประเทศให้เติบโตเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 63% ขณะเดียวกันบริษัทฯก็มีแผนที่จะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันถือว่ามียอดขายเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีมาร์เก็ตแชร์สูงเป็นอันดับ 1 ของแผ่นฟิล์มทั้ง 3 รูปแบบ
โดยปัจจุบัน AJ มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 2.62 แสนตัน/ปี แบ่งเป็น แผ่นฟิล์ม BOPP 4 สาย กำลังผลิต 1.32 แสนตัน/ปี ,แผ่นฟิล์ม BOPET 2 สาย กำลังผลิต 6.2 หมื่นตัน/ปี ,แผ่นฟิล์ม BOPA 1 สาย กำลังผลิต 5 พันตัน/ปี ,แผ่นฟิล์ม Metallzed 4 สาย กำลังผลิต 2.2 หมื่นตัน/ปี ,แผ่นฟิล์ม CPP 1 สาย กำลังผลิต 1.6 หมื่นตัน/ปี และแผ่นฟิล์ม COATEA 1 สาย 6 พันตัน/ปี
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 5.63% โดยบริษัทฯจะเน้นการบริหารจัดการต้นทุน และขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะรักษารัดับอัตรากำไรสุทธิไว้ แม้ว่าสินค้าในกลุ่ม BOPA ในปีนี้ราคาจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
"ปีก่อนหลักๆแล้วอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากความต้องการซื้อสินค้า BOPA ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาสูงขึ้นผิดปกติ ซึ่งปัจจุบันราคาเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่บริษัทฯยังคงเป้าหมายที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ระดับเดิม โดยจะหันมาเน้นการบริหารจัดการต้นทุน และเน้นการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้นด้วย"นายวรวิศว์ กล่าว