(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ เล็ง Domestic plays เด่นหลังกนง.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 29, 2018 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ที่บริเวณ 1,780 จุด โดยมองว่าหุ้นพวก Domestic plays จะเด่น ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีก, สื่อสาร, โรงพยาบาล เนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้ขึ้นเป็น 4.1% จากเดิม 3.9%

ในส่วนของหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เมื่อวานนี้ได้ปรับตัวลงไปมากจากความกังวลเรื่องไม่เก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งทางฝ่ายวิจัยได้ประเมินผลกระทบแล้วพบว่ากระทบกำไรของแบงก์ในปี 2561 ประมาณ 4-5% ซึ่งถ้าวันนี้หุ้นในกลุ่มแบงก์ฟื้นตัวขึ้นได้ ก็จะช่วยหนุนให้ดัชนีฯฟื้นตัวขึ้นได้เช่นกัน

อย่างไรก็ดี หุ้นพวก Global plays วันนี้น่าจะพักฐาน เพราะราคาน้ำมันทรงตัว และตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว โดยยังต้องติดตามปัจจัยเดิมในเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่เตรียมจะเจรจากัน และรอดูว่าตลาดสหรัฐฯในส่วนของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีจะหยุดการปรับตัวลงหรือไม่ เพราะล่าสุดยังปรับตัวลงแต่ก็เล็กน้อยเท่านั้น

พร้อมให้แนวรับ 1,780 จุด ส่วนแนวต้าน 1,795 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,848.42 จุด ลดลง 9.29 จุด (-0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,605.00 จุด ลดลง 7.62 จุด (-0.29%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,949.23 จุด ลดลง 59.58 จุด (-0.85%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 219.65 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.97 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 131.65 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 10.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.08 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.47 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 มี.ค.61) 1,784.99 จุด ลดลง 17.59 จุด (-0.98%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 892.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 มี.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 64.38
ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 มี.ค.61) ที่ 7.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.27 อ่อนค่าตามตลาดโลกรับแรงซื้อดอลลาร์ มองกรอบ 31.20-31.35
  • สหพัฒน์ประเมินเศรษฐกิจ ปีนี้แม้ดีกว่าปีก่อนแต่ฟื้นตัวช้า ห่วงการเมือง ปัจจัยเสี่ยงกระทบเชื่อมั่นบริโภค ชี้ไตรมาสแรก อุปโภคบริโภคยัง"อืด" เร่งปรับกลยุทธ์ผนึก "คู่ค้า"โหมตลาดหนัก เข้มบริหารหลังบ้าน เล็ง"ซื้อกิจการ"ลุยธุรกิจใหม่ ดันยอดปีนี้ กลับมาโต 9% โกย 3.4 หมื่นล้านบาท
  • การประชุม กนง. เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา มีมติลงคะแนน 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% และได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2561 จากเดิมที่คาดว่าโต 3.9% เพิ่มเป็น 4.1% ขณะเดียวกันให้ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 เติบโต 4.1% เช่นกัน เนื่องจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวดี และการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้
  • รฟท.เผยทีโออาร์รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ให้เอกชนเข้าบริหารแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ รับหนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาท พร้อมลงทุนซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มและเข้าบริหารเก็บค่าโดยสารได้เต็มตัวหลังเซ็นสัญญา 2 ปี ยืนยันจอดทุกสถานีเหมือนเดิม
  • ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า ในปีนี้แนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยบ้านไม่น่าจะมีหรือขึ้นไม่มาก ทั้งนี้คาดว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะมีการขยายตัวเพิ่ม 6% หรือเพิ่มขึ้นอีกราว 2 แสนล้านบาท จากปีที่แล้วมีการขยายตัว 5.5-6% หรือประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • UKEM-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล (UKEM)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 103,011,586 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 2 ปี มีอัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 31 พ.ค.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 14 มี.ค.63
  • MONO (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 5.30 บาท คาด Q1/61 เติบโตแข็งแกร่งทั้ง QoQ และ YoY จากค่าโฆษณาที่ปรับเพิ่มขึ้นตามอันดับเรตติ้ง หลังขึ้นเป็นอันดับ 3 ได้ตลอดช่วง Q1/61 โดยอัตราค่าโฆษณาต่อนาทีเพิ่มขึ้น ขณะที่ MONO ตั้งเป้าค่าโฆษณาเฉลี่ยปี 61 ที่ 40,000 บาท/นาที พร้อมคาดปี 61 กำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งกว่า 5 เท่า จากค่าโฆษณาที่เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงไม่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับการงดออกอากาศในช่วงเดือนตุลาคม เหมือนปี 59 และปี 60
  • CPN (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 93 บาท ผลประกอบการจะสดใสตั้งแต่ Q1/61 เพราะคอนโด Escent แห่งแรกที่ระยองเริ่มโอนตั้งแต่ มี.ค. และรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากเซ็นทรัลโคราชและมหาชัยซึ่งเป็นฤดูจับจ่ายและท่องเที่ยว ชดเชยรายได้จาก CTW ที่ปิดปรับปรุงบางส่วน เบื้องต้นคาดกำไร Q1/61 +15% Q-Q, +2% Y-Y เป็น 2.8 พันล้านบาท กำไรในช่วงที่เหลือของปีอยู่ในทิศทางขาขึ้นจากคอนโดอีก 2 แห่งที่จะโอน และเปิดห้างใหม่อย่างน้อย 2 แห่ง ส่วนห้างที่ 3 คาดเผยภายใน Q2/61 ปัจจุบันมี PE 27 เท่า EV/EBITDA 19 เท่า สูงกว่า Regional peers ที่ 18 เท่าและ 13 เท่าตามลำดับ แต่ถือว่าเหมาะสม เพราะกำไรปีนี้ที่คาด +22% Y-Y สูงกว่าภูมิภาคที่ 15% Y-Y มาก
  • HTC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 35 บาท เก็งกำไรราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวลง 12.2 เซนต์/ปอนด์ ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี เป็นบวกกับกลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบ เนื่องจากปัจจุบันไทยประกาศให้ราคาขายในประเทศลอยตัวตามราคาน้ำตาลในตลาดโลก โดยมอง HTC ได้ประโยชน์มากสุด โดยทุก ๆ 1 บาท ที่ราคาน้ำตาลในประเทศลดลงจะเพิ่มกำไรให้กับ HTC ประมาณ 60 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ