ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,778.76 จุด ลดลง 6.23 จุด (-0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 33,977.67 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,789.00 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,774.67 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบรับผลจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังราคาน้ำมันย่อตัว สาเหตุจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ฯคาดไว้ และเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่าขึ้นด้วยส่งผลลบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity)
นอกจากนี้ ยังมีแรงขายจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ต่อเนื่อง จากความกังวลผลกระทบที่หลายแบงก์ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรมออนไลน์ อีกทั้งล่าสุดก็มีประเด็นการเมืองที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อาจยื่นร่างกฏหมายลูกส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เพราะอาจทำให้โรดแมพเลือกตั้งให้เลื่อนออกไปได้ จึงเป็น Sentiment เชิงลบในประเทศ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ระหว่างรอติดตามพัฒนาการประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังไว้ใจไม่ได้ ในประเทศติดตามกรณี สนช.อาจจะยื่นตีความร่างกฏหมายลูกสส.หากศาลฯ รับตีความจะกระทบการเลือกตั้งอย่างไร และติดตามการ Preview ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะสวิงตัวในกรอบแคบ ดัชนีฯคงจะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบได้ พร้อมให้แนวรับ 1,770 ส่วนแนวต้าน 1,790 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,139.13 ล้านบาท ปิดที่ 554.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,406.89 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท ลดลง 1.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,778.61 ล้านบาท ปิดที่ 87.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,328.72 ล้านบาท ปิดที่ 199.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,176.64 ล้านบาท ปิดที่ 214.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท