ESTAR ตั้งเป้ายอดขายปี 61 โต 50% มาที่ 1.6 พันลบ. พร้อมวางแผนเปิด 2-3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3-4 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 29, 2018 12:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท (ESTAR) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 61 เติบโต 50% จากปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 1.02 พันล้านบาท มาอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท พร้อมวางแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 2-3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 3-4 พันล้านบาททั้งในกรุงเทพฯและระยอง โดยจะสร้างความหลากหลายให้กับโครงการของบริษัททั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ 8 ชั้น

โครงการใหม่ในปีนี้ จะมีโครงการบ้านเดี่ยวที่ระยองแบรนด์ใหม่ 1 โครงการ มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท คือ โครงการเวลาน่า กอล์ฟ เฮาส์ (VELANA Goft House) จำนวน 98 ยูนิต ราคาขาย 4-6 ล้านบาท/ยูนิต โดยโครงตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟอีสเทอร์น สตาร์ แอนด์ รีสอร์ท อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นเจ้าของกิจการ ผู้บริหารบริษัท แพทย์ นักบิน วิศวกร และผู้จัดการโครงการต่างๆ ที่ทำงานในจังหวัดระยอง รวมถึงชาวต่างชาติ ซึ่งได้เปิดการขายไปแล้ว

ส่วนอีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการละ 1.5 พันล้านบาทจะทยอยเปิดในไตรมาส 3/61 และไตรมาส 4/61 เป็นโครงการในกรุงเทพฯ บนทำเลสุขุมวิท-พัฒนาการ เป็นโครงการแนวราบ 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ 1 โครงการ ยังเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ราคาขายตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่อาศัยจริง และมีความสามารถในการซื้อสูง อัตราการปฏิเสธสินเชื่อน้อยมาก ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงในแง่ผลกระทบต่อผลการดำเนินงานน้อย

"สำหรับแบรนด์ เวลาน่า นั้น มีเป้าหมายตอบโจทย์ลูกค้าในระดับกลาง-บน โดยมุ่งนำเสนอวัฒนธรรม การอยู่อาศัยในโครงการที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางที่มากกว่า โดยคำนึงถึง Attitude Trend ที่ผู้คนต่างแสวงหารูปแบบการใช้ชีวิตที่พอดี ไม่ว่าจะเป็นความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันกับความ สัมพันธ์ของคนในครอบครัว รวมไปถึงการเลือกทำเลที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตการทำงานและชีวิตด้านอื่นๆ ของตนเอง โดยนำเสนอ Social Innovation ที่ตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าว อาทิ การใช้พื้นที่ส่วนกลางให้เป็นส่วนเรียนรู้ให้กับเด็กๆ อย่างสร้างสรรค์ การแชร์ส่วนพื้นที่ใช้สอยร่วมกัน ในรูปแบบ Co-Working Space หรือ Co-Locker เป็นต้น เพื่อให้ลูกบ้านของอีสเทอร์น สตาร์ได้สัมผัสกับชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแท้จริง"นายต่อศักดิ์ กล่าว

ด้านรายได้ในปี 61 บริษัทตั้งเป้าหมายไว้เบื้องต้นที่ 2 พันล้านบาท เท่ากับปีก่อน แต่ปีก่อนบริษัทมีรายได้ที่สูงกว่าเป้าหมาย 2 พันล้านบาท มาเป็น 2.5 พันล้านบาท เพราะมีการโอนโครงการแนวราบมากกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ปีนี้บริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 800-900 ล้านบาทซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็น Backlog จากคอนโดมิเนียม AMBER แยกติวานนท์ ที่มียอดขาย 50% และเตรียมโอนในช่วงไตรมาส 3/61 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนกำหนดเริ่มโอน

ส่วนมูลค่าสต๊อกเหลือขายของบริษัทในปัจจุบันมีอยู่กว่า 1 พันล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการขายและโอนกรรมสิทธิ์อยู่ทั้งสิ้น 6 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมในกรุงเทพ 3 โครงการ ได้แก่ Star View ริมน้ำ ย่านพระราม 3, Nara 9 แยกสาทร-นราธิวาส, Amber Condo ติดรถไฟฟ้าสถานีแยกติวานนท์ และโครงการบ้านเดี่ยวในเขตพื้นที่อำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ Vintage Home Village 3 , Hamlet 3, Sinthavee Garden 2

นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ถือว่าเอื้อต่อการรุกขยายธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างยิ่ง ทั้งเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวก็ยังขยายตัวได้ดี การลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐก็ยังคงเดินหน้าต่อ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ ทางด่วนเชื่อมวงแหวน ไปจนถึงโครงการ EEC ที่มีความชัดเจนมากขึ้นในด้านผังเมืองและแผนการพัฒนาด้านการคมนาคม ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสและเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ในจังหวัดระยอง

ขณะที่ตลาดผู้บริโภคระดับกลาง-บน ก็ยังตอบรับการเปิดตัวสินค้าที่อยู่อาศัยใหม่ในอัตราที่ดี นักลงทุนรายย่อยจากต่างชาติ โดยเฉพาะจีนยังให้ความมั่นใจในเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯ ของไทย ไปจนถึงกระแส Aging Society ที่ส่งผลให้สินค้าอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงอายุได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนต่อเนื่องของบริษัททั้งสิ้น

ในปีนี้บริษัทตั้งงบซื้อที่ดินไว้ที่กว่า 2 พันล้านบาท ทั้งทำเลในกรุงเทพและระยองสำหรับพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในอนาคต ส่วนที่ดินเปล่าที่จ.ระยอง บริษัทมีที่ดินเอล่าเหลือเกือบ 1,000 ไร่ อยู่ระหว่างการพิจารณาทยอยพัฒนาโครงการต่างๆเพิ่มขึ้นมา โดยจะเน้นไปที่โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลัก ประอบกับอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดอื่นๆเพิ่มเติม แต่ในปัจจุบันยังเน้นพัฒนาโครงการในจังหวัดระยองและกรุงเทพฯเป็นหลัก ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระดับสูง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ