ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,766.92 จุด ลดลง 18.07 จุด (-1.01%) มูลค่าการซื้อขาย 84,249.32 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,789.00 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,756.62 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 337 หลักทรัพย์ ลดลง 1,047 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 360 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรง มองว่าเป็นประเด็นเฉพาะกลุ่ม โดยตลาดรับแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันได้อ่อนตัวลง และกลุ่มโรงกลั่นหลังจากที่ภาครัฐฯอยู่ระหว่างพิจารณาปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น และราคาขายปลีก จากเดิมอ้างอิงราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ บวกพรีเมียม แต่รัฐฯอาจจะเอาค่าพรีเมียมออกไป ซึ่งจะเข้าที่ประชุมในวันที่ 5 เม.ย. แต่ราคาหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นก็ปรับตัวลงไปก่อน
ส่วนกลุ่มแบงก์เมื่อมีการยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล ก็ทำให้รายได้จากค่าธรรมเนียมจะลดลงบางส่วน ซึ่งก็ไม่ได้กระทบมาก โดยปัจจุบัน KBANK มีลูกค้าที่ใช้บริการผ่านโมบาย แบงก์กิ้ง มากสุด ซึ่งมองผลกระทบกำไรของ KBANK ไว้ 7% ส่วนแบงก์อื่นผลกระทบก็ลดหลั่นตามสัดส่วนไป
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมือง จากความกังวลที่อาจจะมีการเลื่อนโรดแมพเลือกตั้ง หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อาจยื่นร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตีความด้วย ซึ่งที่จริงนักลงทุนก็ไม่ได้กังวลมาก เพียงแต่ต้องการความชัดเจนเท่านั้น
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยวันนี้ไม่มีปัจจัยนอกประเทศมากระทบตลาดฯ แต่ปัจจัยที่กระทบตลาดฯเป็นปัจจัยในประเทศทั้งนั้น อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามดูความคืบหน้าเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway Down ซึ่งดัชนีฯสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,760 จุดได้ ก็มีโอกาสที่จะเด้งขึ้นได้ดีพอควร ส่วนแนวต้าน 1,775-1,780 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 12,129.80 ล้านบาท ปิดที่ 548.00 บาท ลดลง 12.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 6,620.59 ล้านบาท ปิดที่ 66.00 บาท ลดลง 1.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,711.14 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 2,944.03 ล้านบาท ปิดที่ 2.52 บาท ลดลง 0.22 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,908.56 ล้านบาท ปิดที่ 494.00 บาท ลดลง 8.00 บาท