นายวิบูลย์ อุตสาหจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป (SPA) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 เติบโต 25% หรือแตะ 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 962.39 ล้านบาท ซึ่งเห็นแนวโน้มที่ดีตั้งแต่ไตรมาส 1/61 ที่คาดว่าผลงานน่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 1/60 และดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า เป็นไปตามภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตส่งผลทำให้มียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้ามียอดผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน จากปีก่อน 9 แสนคน ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติ คิดเป็น 75% และชาวไทย 25%
บริษัทยังมีแผนขยายสาขาในประเทศเพิ่มอีก 10 สาขาในปีนี้ แบ่งเป็น แบรนด์ Let’s Relax (เล็ท รีแลกซ์) จำนวน 7 สาขา ส่วนที่เหลือเป็นแบรนด์ RarinJinda Wellness Spa (ระรินจินดา เวลเนส สปา) และ BaanSuan Massage (บ้านสวน มาสสาจ) จำนวน 3 สาขา วางงบลงทุนไว้ราว 250 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีสาขาในประเทศไทยทั้งสิ้น 41 สาขา ได้แก่ แบรนด์ Let’s Relax จำนวน 27 สาขา , แบรนด์ RarinJinda Wellness Spa จำนวน 3 สาขา และ BaanSuan Massage จำนวน 11 สาขา
สำหรับการขยายสาขาในต่างประเทศ ในรูปแบบการทำสัญญาแฟรนไชส์ธุรกิจสปาเพื่อสุขภาพ ปีนี้มีแผนขยายเพิ่มอีก 6 สาขา แบ่งเป็นประเทศจีน 3 สาขา อยู่ที่เมืองชิงเต่า และเมืองเทียนจิน จากเดิมที่มีสาขาในประเทศจีนอยู่แล้ว 1 สาขา ส่วนที่เหลือจะขยายเพิ่มเติมอีกในประเทศกัมพูชา จำนวน 3 สาขาโดยในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาได้เปิดสาขาแรกไปแล้
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างพิจารณาขยายสาขาเพิ่มเติมที่มหานครเซี่ยงไฮ้ของจีน ซึ่งจะเป็นการลงทุนร่วมกันกับพันธมิตรท้องถิ่น คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง เบื้องต้นคาดใช้งบลงทุน 2-3 เท่าของการลงทุนในประเทศไทยที่มีการลงทุนในระดับ 20 ล้านบาทต่อสาขา อย่างไรก็ตาม บริษัทมองศักยภาพในจีนมีการเติบโตที่ค่อนข้างสูง และลูกค้าส่วนใหญ่ของ SPA เป็นชาวจีน
นายวิบูลย์ กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาเพื่อแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ ประกอบกับในช่วงปลายปีนี้บริษัทจะมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ในเรื่องของแบรนด์และแพจเกจจิ้งให้สอดคลัองกับธุรกิจด้วย