นายวิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนทั้งการบินไทยและไทยสมายล์ ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Fatcor) เป็นไปตามเป้าหมาย จำนวนผู้โดยสารเติบโตอย่างมากทั้งตลาดในประเทศและตลาดภูมิภาค
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกทั้งเส้นทางต่างประเทศและในต่างประเทศ เนื่องจากจำนวน Traffic ผู้โดยสารยังหนาแน่น โดยเฉพาะเส้นทางไปญี่ปุ่นยังเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมาก รวมทั้งเส้นทางเกาหลีและไต้หวันที่มีการจองตั๋วอย่างมากในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ทั้งนี้ การบินไทยได้เพิ่มความถี่เส้นทางบินที่คนไทยนิยม ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน โดยได้เพิ่มความถี่ กรุงเทพ-นาริตะจาก 5 เที่ยวบิน/วัน เป็น 6 เที่ยวบิน/วันในปลายเดือน มี.ค.61 และยังมีกรุงเทพ-ฮาเนดะ 2 เที่ยวบิน/วัน ขณะที่เตรียมเพิ่มเที่ยวบินกรุงเทพ-ฟุกุโอกะ เป็น 10 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จาก 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ซึ่งจะเริ่มบินในตารางบินฤดูหนาวนี้
นอกจากนั้น การบินไทยยังได้เพิ่มเที่ยวบินไปอินเดียตามการขยายสิทธิการบิน โดยจะเพิ่มเที่ยวบิน กรุงเทพ-นิวเดลี จาก 19 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 21 เที่ยวบิน/สัปดาห์ และไทยสมายล์เพิ่มเที่ยวบินกรุงเทพ-บอมเบย์ จาก 5 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ทั้งนี้เริ่มบินในเดือน พ.ค.นี้
"ปีนี้เป็นปีที่ดีของเรา การบินไทยผงาดขึ้นในปีนี้ ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศตอบรับดีมาก"นายวิวัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/61 การบินไทยเตรียมเปิดจุดบินใหม่ไปยังเมืองต่างๆ ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา ได้แก่ มาดริด , แมนเชสเตอร์ และ ฮัมบูร์ก ส่วนเส้นทางที่จะบินเข้าสหรัฐยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ ขณะที่เส้นทางกรุงเทพ-เตหะราน การบินไทยได้หยุดบินแล้วเมื่อ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาหลังเปิดทำการบินได้ประมาณ 1 ปี เนื่องจากดีมานด์ไม่มากพอ และอิหร่านเกิดข้อขัดแย้งระหว่างประเทศ
ด้านนายกรกฏ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย-ประเทศไทย THAI กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เส้นทางในประเทศที่จองเข้ามามากได้แก่ เชียงใหม่ และภูเก็ต เต็มทุกเที่ยว ทั้งจากผู้โดยสารไทยและต่างประเทศ
ขณะที่บริษัทได้จัดงาน"รักคุณเท่าฟ้า 2561"ในโอกาสครบรอบ 58 ปีระหว่าง 29 มี.ค.-1 เม.ย.61 ที่ให้โปรโมชั่นพิเศษบัตรโดยสารทุกเส้นทาง ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ได้รับผลตอบรับดี และการจัดงานดังกล่าวจะช่วยให้ช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ที่อยู่ในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวกลับมามียอด Traffic ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร ทั้ง 2 ไตรมาสไม่ปรับตัวลดลงมากเกินไป
นายฉัตรชัย ปานอยู่ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ คาดว่า ในปีนี้ไทยสมายล์จะกลับมามีกำไร หลังจากยอดขาดทุนลดลงอย่างเห็นชัดในไตรมาส 4/60 และในไตรมาส 1/61 คาดว่าจะขาดทุนน้อยลง หลังจากมีความร่วมมือกับภายใต้ THAI Group และการย้ายทำการบินไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วยลดค่าใช้จ่าย และมีการเชื่อมต่อเที่ยวบินให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก
ในปีนี้สายการบินไทยสมายล์ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 10 ล้านคน เติบโต 12% จากปีก่อน Cabin Factor เกินกว่า 80% โดยรายได้จะเติบโตตามจำนวนผู้โดยสาร และการใช้เครื่องบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราว 9-10 ชม./วัน อย่างไรก็ตาม กำไรต่อหน่วย (yield) ยังไม่ค่อยสูงมาก จากผลกระทบการตัดราคาของกลุ่มสายการบินต้นทุนต่ำ และมีสายการบินใหม่จากต่างประเทศเข้ามาแข่งขันในไทยเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ไทยสมายล์พยายามเน้นการให้บริการที่ดีให้ได้สม่ำเสมอ