ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,760.96 จุด ลดลง 5.96 จุด (-0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 27,405.13 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,776.41 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,753.93 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อยู่ในแดนบวกได้ชั่วขณะ และเริ่มไหลลง เนื่องจากยังได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานแม้ว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะปรับตัวขึ้น แต่ก็ยังได้รับ Sentiment จากเรื่องที่ภาครัฐฯอยู่ระหว่างพิจารณาปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น และราคาขายปลีก จากเดิมอ้างอิงราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ บวกพรีเมียม แต่รัฐฯอาจจะเอาค่าพรีเมียมออกไป ซึ่งจะเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ในวันที่ 5 เม.ย. ทำให้ไปกดดันให้ดัชนีฯปรับตัวขึ้นไปได้ไม่สุด และอ่อนตัวลงในเวลาต่อมา
ส่วนหุ้นในกลุ่มแบงก์ก็ยังกดดันตลาดฯอยู่ จากที่ยังมีบางแบงก์ยังปรับตัวลงอยู่ ซึ่งภาพโดยรวมของตลาดฯจะเห็นได้ว่าเมื่อดีดกลับขึ้นไปก็จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมาอยู่
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยืนในแดนบวก ขณะที่หลายตลาดฯปิดทำการในวันนี้เนื่องในวัน Good Friday แม้แต่ตลาดในยุโรปก็ปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวัน Good Friday เช่นกัน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวคล้ายช่วงเช้า โดยให้แนวรับ 1,760-1,750 จุด ส่วนแนวต้าน 1,780 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,439.61 ล้านบาท ปิดที่ 548.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,096.64 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 965.43 ล้านบาท ปิดที่ 86.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
KTC มูลค่าการซื้อขาย 885.78 ล้านบาท ปิดที่ 311.00 บาท ลดลง 11.00 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 870.91 ล้านบาท ปิดที่ 2.50 บาท ลดลง 0.02 บาท