นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร (TK) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้เติบโต 10% ผลักดันพอร์ตสินเชื่อรวมแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท จาก 9 พันล้านบาทในปีก่อน และวางเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการดำเนินธุรกิจในประเทศและต่างประเทศให้เป็น 50:50 ภายในปี 63 โดยบริษัทได้เตรียมงบประมาณกว่า 60 ล้านบาทสำหรับการขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ การพัฒนาระบบไอที โดยเฉพาะระบบ Mobile Application การพัฒนาบุคคลากรและองค์กรให้มีความพร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับบริษัท
นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายสาขารวมเกือบ 10 สาขา ในปี 61 โดยจะขยายสาขาในประเทศไม่ต่ำกว่า 4-5 สาขา และขยายสาขาในต่างประเทศรวม 5 สาขา คือ 3 สาขา ในกัมพูชา และอีก 2 สาขา ในลาว และคาดว่าน่าจะได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Micro Finance License ในเมียนมาภายในปีนี้
นางสาวปฐมา กล่าวว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตที่ 10% ส่งพอร์ตสินเชื่อคงค้างสิ้นปีนี้ที่ 10,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ 9,032 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทยังไม่มั่นใจในภาพรวมเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจทั่วโลกมากนัก หลังจากมีสถานการณ์ต่างๆอยู่บนความไม่แน่นอน แต่อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเข้าสู่ภาวะปกติ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีทิศทางที่ชัดเจน บริษัทก็อาจจะมีการปรับเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อเพิ่มขึ้น สำหรับทิศทางในอีก 3-5 ปี ข้างหน้าบริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจที่อยู่ในต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายในปี 63 สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะเปลี่ยนเป็นมาจากในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50% จากปีนี้ราไยด้ต่างประเทศจะเข้ามาที่สัดส่วนราว 10% หลังจากบริษัทขยายธุรกิจในลาวและกัมพูชา ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนปล่อยสินเชื่อไปราว 400 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกนี้จะได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Micro Finance License ในเมียนมา แต่จะเห็นการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปีหน้า และจะทำให้ระยะยาวสินเชื่อจากต่างประเทศจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทมีนโยบายจะซื้อกิจการเพิ่มเติม โดยเฉพาะเวียดนาม เนื่องจากมีความน่าสนใจในการลงทุน ซึ่งบริษัทมีเงินทุนรองรับเพียงพอ
นางสาวปฐมา กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะลดสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลงเหลือ 4.5% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ระดับ 4.7% โดยพบว่าปลายปีที่ผ่านมาลูกหนี้ในเขตกรุงเทพยบางรายไม่ชำระหนี้ให้กับบริษัท ทำให้ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น ด้านความพร้อมทางการเงินเพื่อการขยายพอร์ตสินเชื่อ ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ออกหุ้นกู้อายุ 3 ปี จำนวน 600 ล้านบาทในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา และยังมีวงเงินออกหุ้นกู้คงเหลืออีก 2,600 ล้านบาท รวมทั้งที่ได้ขออนุมัติวงเงินทดรองไว้เพิ่มเติมอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทลูกของ TK กู้ยืม หากการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อในต่างประเทศมีการขยายตัวในระดับสูง "ในช่วงไตรมาส 1/61 สินเชื่อคงจะเติบโตได้เพียง 1% เท่านั้น โดยมีการชะลอตัวกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ แต่ตอนนี้เราเข้มงวดมากขึ้น เพราะลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ได้ แต่ในต่างจังหวัดยังปกติ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆในไตรมาสถัดไป และสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10%"นางสาวปฐมา กล่าว พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้เตรียมงบประมาณกว่า 60 ล้านบาทในปีนี้สำหรับการขยายสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ การพัฒนาระบบ IT โดยเฉพาะระบบ Mobile Application การพัฒนาบุคคลากรและองค์กรให้มีความพร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับบริษัท