(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์แต่ไปได้ไม่ไกล หลังดาวโจนส์พุ่งขึ้น-ราคาน้ำมันฟื้นตัว แต่ยังกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 4, 2018 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์แต่ไปได้ไม่ไกล หลังจากที่เมื่อวานนี้ดัชนีฯได้ปรับตัวลงแรง และเช้านี้ดาวโจนส์ก็ปรับตัวขึ้นเกือบ 400 จุด อีกทั้งราคาน้ำมันก็ฟื้นตัวขึ้น

แต่ดัชนีฯคงจะไปได้ไม่ไกลเพราะยังมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐฯ และจีนอยู่ โดยเช้านี้ทางสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% จำนวน 1,300 รายการ ก็เป็นสินค้าประเภทเทคโนโลยี, เครื่องจักร เป็นต้น อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบเล็กน้อย ยกเว้นตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่อยู่ในแดนบวกกัน

พร้อมให้แนวรับ 1,760 จุด ส่วนแนวต้าน 1,774 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 เม.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,033.36 จุด พุ่งขึ้น 389.17 จุด (+1.65%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,614.45 จุด เพิ่มขึ้น 32.57 จุด (+1.26%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,941.28 จุด เพิ่มขึ้น 71.16 จุด (+1.04%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 123.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 10.42 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 64.12 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.54 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.01 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 36.21 จุด

ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเด็ก

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 เม.ย.61) 1,765.24 จุด ลดลง 17.04 จุด(-0.96%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 480.54 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 เม.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 เม.ย.61) ปิดที่ระดับ 63.51
ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 เม.ย.61) ที่ 6.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.19 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดรอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 31.15-31.25
  • กกร.ปรับเพิ่มตัวเลขเศรษฐกิจ คาดจีดีพีโต 4-4.5% ส่งออกโต 5-8% เงินเฟ้อลดลง อยู่ที่ 0.7-1.2% เพราะราคาสินค้าเกษตรในประเทศทรงตัว ห่วงสงครามการค้ากดดันจีนดัมพ์สินค้าเข้าไทย เพิ่มการแข่งขันในตลาดอาเซียน พร้อมจับมือกระทรวงแรงงานประเมินความต้องการแรงงานใน อีอีซี เบื้องต้นมีความต้องการเพิ่มกว่า 2.3 หมื่นตำแหน่ง
  • นายกรัฐมนตรี สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เร่งรัดทำข้อสรุปเกี่ยวกับการให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล โดยให้พักชำระค่าใบอนุญาต 3 ปี และลดราคาค่าใช้จ่ายค่าเช่า โครงข่ายทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน (ค่ามัค) ให้กับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 50% เป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี และการช่วยเหลือผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ โดยยืดเวลาชำระในงวดที่ 4 ออกไป 5 งวดเป็นเวลา 5 ปี ให้แล้วเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้
  • "สมคิด" ตบเท้าติดตามภารกิจกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อนวันนี้ (4 เม.ย.) หวังเร่งเครื่องสร้างเศรษฐกิจฐานราก ก.อุตฯเตรียมโชว์ความคืบหน้านโยบายผลักดัน SMEs 4.0 และการกำหนดแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายไบโอชีวภาพและเกษตรแปรรูปจ่อเข้า ครม.เร็วๆ นี้
  • บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะสูงสุดในไตรมาส 2-3 ปีนี้ ซึ่งอาจจะแตะถึง 7% จากสิ้นปี 2560 ที่เอ็นพีแอลอยู่ที่ 6.9% แต่ที่น่าสังเกตคือเริ่มเห็นแนวโน้มการปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557-2558 ยอดหนี้สะสมอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบันยอดหนี้สะสมเพิ่มขึ้นเป็น 5.4-5.5 แสนล้านบาท หรือเติบโต 5 เท่า ในขณะที่ยอดการค้างชำระตั้งแต่ 31-90 วัน ยังมีแนวโน้มสูงขึ้น
  • บจ.ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ mai รวม 487 แห่ง รายงานมูลค่าเงินปันผลปี 2560 มูลค่ารวม 478,092 ล้านบาท (ณ 21 มี.ค.2561) โดยมีอัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลี่ย 3.41%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 9.70 บาท จากพอร์ตที่ยืดหยุ่นในการกระจายรายได้ทั้งแนวราบและคอนโดในทุกเซกเมนต์ ประกอบกับคาดกำไรปกติปีนี้โตดีต่อเนื่อง +10% Y-Y อยู่ที่ 3.4 พันลบ. จากการเริ่มโอนคอนโด 2 แห่ง มูลค่ารวม 8.7 พันลบ. และยอดโอนแนวราบที่คาดทำได้ไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นลบ. อีกทั้งยังมีโครงการ JV ที่คาดให้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้น +35% Y-Y แม้บริษัทจะให้เป้า Presales อย่างอนุรักษ์นิยมที่ 3.35 หมื่นลบ. (-22% Y-Y) แต่มีสัญญาณบวกจากยอดขายใน 1Q18 ที่โตแรง +168% Y-Y แตะระดับ 1 หมื่นลบ. คิดเป็น 30% ของเป้าทั้งปีแล้ว PE2018 เพียง 7.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และกลุ่มอสังหาฯที่ 9 เท่า
  • BR (ไอร่า) เป้า 10.20 บาท คาดในปี 61 ราคาขายเป็ดสามารถทรงตัวในระดับที่ดี ประกอบกับ BR ต่อยอดไปยังธุรกิจอาหารแปรรูป ซึ่งเปิดดำเนินการโรงงานใหม่เมื่อปลายปี 60 ที่ผ่านมา และการเข้าร่วมทุนกับ BTS ในการขยายธุรกิจร้านอาหารจีน "Chef Man" ซึ่งคาดเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการพัฒนาจากธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมไปยังธุรกิจอาหาร คาดช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับ BR ในอนาคต พร้อมคาดปี 61 กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง 21% คาดอยู่ที่ 665 ล้านบาท และคาดเงินปันผล 0.44 บาท หรือคิดเป็น Dividend Yield สูงเกือบ 6.0%
  • BJC (เออีซี) "ซื้อ"เป้า 65 บาท ปี 61 คาดกำไรปกติโต 30.8%YoY จากทุกกลุ่มธุรกิจโดยธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (บิ๊กซี) และสินค้าอุปโภคบริโภคคาดได้ผลบวกจากกำลังซื้อดีขึ้นและการขยายสาขา (ปีนี้มีแผนขยายไฮเปอร์มาร์เก็ตและมินิบิ๊กซี 8 และ 200 สาขาตามลำดับ) ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะรับรู้การผลิตเต็มปีของเตาหลอมแก้วใหม่, ธุรกิจเวชภัณฑ์ฯคาดโตสดใสจากภาครัฐเร่งเบิกจ่าย + Upside 14.5% และมีเงินปันผลจ่าย 0.42 บาท (XD 4 พ.ค.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ