นายชาญ เธียรกาญจนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รักษาการกรรมการผู้จัดการ บมจ.บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) เปิดเผยว่า บริษัทนำจุดเด่นด้านการเป็นพันธมิตรทางการค้าที่เข้มแข็งกับแบรนด์กล้อง ช่างภาพมืออาชีพระดับประเทศ รวมถึงการเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ของไทย วางแผนการดำเนินงานโดยใช้กลยุทธ์ "Exclusivity Marketing" โดยนำเข้ากล้องดิจิทัลและอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีวางจำหน่ายเฉพาะที่ บิ๊ก คาเมร่า ที่เดียวและในงานอีเว้นท์แรกของปีนี้ คือ "บิ๊ก คาเมร่า เฟสติวัล 2018" (BIG CAMERA FESTIVAL 2018) โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-11 เม.ย.นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ใช้งบประมาณในการจัดงานรวมทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านบาท
"ถือว่าเป็นอีเว้นท์เปิดฤดูกาลขายของกล้องดิจิทัลปี 2018 เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีมีกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพเปิดตัวใหม่หลายแบรนด์ แต่ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยปกติมักจะเริ่มจัดจำหน่ายปลายมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน ซึ่งจะตรงกับช่วงที่จัดงานพอดี จึงถือเป็นการจัดจำหน่ายกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดของปีนี้ไว้ในที่เดียว"นายชาญ กล่าว
นายชาญ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดกล้องดิจิทัลของไทยในปีที่ผ่านมา มูลค่ารวม 8,600 ล้านบาท หรืออยู่ที่ 310,000 ตัว โดยเซ็กเมนต์กล้อง Mirrorless ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดที่สูงกว่า DSLR และ Compact ทำให้ผู้ผลิตกล้องหลายแบรนด์ให้ความสำคัญกับตลาด Mirrorless จึงทำให้เกิดการแข่งขันสูงขึ้นตามไปด้วย
"ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมการซื้อกล้องดิจิทัลของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยพบกลุ่มอายุของผู้ใช้งานลดลงเรื่อยๆ มีการค้นคว้าเกี่ยวกับเทรนด์ของกล้องหรือหาข้อมูลผลิตภัณฑ์มากขึ้น รวมถึงมีความต้องการรุ่นและสีเฉพาะตัวที่แตกต่างบ่งบอกถึงตัวตนและแสดงถึงความเอ็กซ์คลูซีฟ"
นายชาญ กล่าวอีกว่า ภาพรวมผลประกอบการในปี 61 คาดว่าจะมีรายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 6,043.10 ล้านบาท โดยจะเน้นขยายธุรกิจ Printing โดยเฉพาะการขยายสาขาเพิ่มเป็น 4 สาขา และเพิ่มธุรกิจ Printing ในร้าน BIG Camera ทุกสาขา
นอกเหนือจากกลยุทธ์ด้านการทำตลาดแบบ Exclusivity Marketing แล้ว บริษัทวางแผนเปิดสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้นตามการขยายตัวของห้างสรรพสินค้า ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนในธุรกิจการพิมพ์ (Printing) ซึ่งดำเนินงานภายใต้ชื่อ Wonder Photo Shop นั้น ที่ผ่านมาเปิดไปแล้ว 6 สาขา และปีนี้มีแผนขยายสาขาเพิ่มอีกอย่างน้อย 4 สาขา รวมเป็น 10 สาขา
ขณะที่ด้านธุรกิจ BIG Mobile ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจะเริ่มขยายสาขาในจังหวัดกรุงเทพมากขึ้น จากเดิมที่เน้นขยายสาขาในต่างจังหวัด และอยู่ระหว่างหาโอกาสเข้ารับงานบริหารร้าน AIS Shop เพิ่มเติม ดังนั้นจึงมั่นใจว่าภาพรวมรายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
บริษัทยังจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ กิจกรรมเวิร์คช้อปการถ่ายภาพ ในบรรยากาศและสถานที่ระดับพรีเมี่ยม พร้อมเชิญช่างภาพชื่อดังระดับประเทศมาแนะเทคนิคการถ่ายภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้กล้องให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีลูกค้ากว่า 6,000 รายต่อปีที่ได้รับความรู้ในการถ่ายภาพและสามารถใช้งานกล้องดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการคืนกำไรให้กับลูกค้า ผ่านกิจกรรมบิ๊กคาเมร่า บิ๊ก โบนัส ซึ่งลูกค้าผู้โชคดีจะได้ร่วมทริปเวิร์คช้อปถ่ายภาพพร้อมท่องเที่ยว ประเทศในฝัน อาทิ ฝรั่งเศส ออสเตรีย เยอรมนี นิวซีแลนด์ เป็นต้น