ตลาดหุ้นไทยต้นภาคบ่ายไหลดิ่งลงหนักไปเป็นกว่า 30 จุด จากแรงขายกลุ่มแบงก์นำดิ่ง หลัง KBANK ปรับลดเป้ารายได้ค่าธรรมเนียม และ รมว.คลัง ออกมาระบุว่าธนาคารพาณิชย์ควรปรับลดสเปรดดอกเบี้ยกู้ระหว่างลูกค้ารายใหญ่และรายเล็ก รวมทั้งหุ้นใหญ่ในกลุ่มพลังงานก็ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะ PTT ที่มีน้ำหนักในตลาดค่อนข้างมาก
เมื่อเวลา 14.30 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,742.58 จุด ลดลง 22.66 จุด (-1.28%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.59 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,735.14 จุด ลดลง 30.10 จุด (-1.71%)
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นภาคบ่ายปรับตัวลงต่อเนื่องไปเป็นติดลบกว่า 20 จุด โดยบ้านเราปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันเฉลี่ยราว 0.6% หลังยังคงกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
แต่บ้านเรารับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่นำตลาดฯลง หลังจากที่ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ปรับลดประมาณการรายได้จากค่าธรรมเนียมปี 61 เป็นติดลบ 6-8% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะทรงตัว ภายหลังจากทำโปรโมชั่นยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมออนไลน์ ทำให้ประมาณการกำไรปีนี้ของ KBANK ถูกปรับลดลงไปด้วย นอกจากนั้น นักลงทุนยังคาดาธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ก็คงจะมีการปรับลดประมาณการลงด้วย เพราะมีการยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยรบกวนจากเรื่องที่ รมว.คลัง ได้ให้ความเห็นว่า การปล่อยสินเชื่อให้กับรายใหญ่กับรายเล็กคิดอัตราดอกเบี้ยต่างกันมาก ซึ่งก็อยากจะให้ส่วนต่างแคบลง ทำให้เป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มแบงก์
พร้อมให้แนวรับ 1,720 จุด ส่วนแนวต้าน 1,750 จุด