(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์กรอบจำกัด หลังสัญญาณเทคนิคปรับลงมากเกินไป แต่ยังกังวลปัญหาการค้าสหรัฐฯ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 5, 2018 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ในกรอบค่อนข้างจำกัด และยังมีโอกาสแกว่งตัวและผันผวนสูง จากความกังวลต่อปัญหาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

ประกอบปัจจัยเทคนิคที่ค่า ISI (Investment Sentiment Index) ลงมาต่ำกว่า 30 จุด บ่งชี้ถึงการที่ดัชนีฯปรับตัวลงมามากเกินไป อย่างไรก็ตามคาดว่านักลงทุนจะยังชะลอการลงทุนก่อนถึงช่วงวันหยุดยาวนี้

ส่วนทิศทางการลงทุนของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คาดว่าตลาดอาจจะปรับประมาณการเป้าหมายและราคาพื้นฐานลง

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามถ้อยแถลงจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้

พร้อมให้แนวรับ 1,710-1,720 จุด ส่วนแนวต้าน 1,735 และ 1,740-1,745 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 เม.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,264.30 จุด พุ่งขึ้น 230.94 จุด (+0.96%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,644.69 จุด เพิ่มขึ้น 30.24 จุด (+1.16%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,042.11 จุด เพิ่มขึ้น 100.83 จุด (+1.45%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 221.63 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 18.86 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 49.49 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 8.52 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลเชงเม้ง

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 เม.ย.61) 1,724.98 จุด ลดลง 40.26 จุด(-2.28%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 200.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 เม.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 เม.ย.61) ปิดที่ระดับ 63.37
ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 เม.ย.61) ที่ 6.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.23 แนวโน้มอ่อนค่า จับตาตลาดหุ้นไทยหลังร่วงแรง-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนพรุ่งนี้
  • จีนประกาศเก็บภาษี สินค้านำเข้าจากสหรัฐ 106 รายการ มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ตอบโต้สหรัฐทันควัน หลังถูกเรียกเก็บภาษี 25% สินค้า 1,300 รายการ ด้านพาณิชย์จับตากรณีพิพาทการค้าอย่างใกล้ชิด ชี้มีผลกระทบต่อไทยทั้งบวกและลบ
  • "สมคิด" เร่งกระทรวงอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดรูปธรรมใน 1 ปีหวังรัฐบาลใหม่ต้องสานต่อ โดยเฉพาะการส่งเสริมเอสเอ็มอี 4.0 แนะให้ระดมสมองปั้นสินค้าชุมชนที่โดดเด่นแต่ละจังหวัดต่อยอดหมู่บ้านสร้างสรรค์(CIV)ฯลฯ "อุตตม" รับลูกเตรียมเรียกอุตสาหกรรมจังหวัดระดมสมองเร่งพัฒนาสินค้าชุมชนดึงท่องเที่ยวเมืองรอง
  • ไอเอ็มเอฟประเมินการเจริญเติบโตเศรฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียอยู่ที่ 6.5% ในปีนี้ และจะขยับขึ้นเป็น 6.6% ในปีหน้า โดยเอเชียยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ชี้นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯที่ทำต่อจีน และมาตรการตอบโต้กลับจากจีน กดดันให้มูลค่าการผลิตการส่งออกทั้ง 2 ประเทศ ลดลง จนกระทบต่อการเติบโตของภูมิภาคอาเซียน+3 ส่วนไทยแม้เงินบาทแข้งค่าต่อเนื่องแต่ระเบียงเศรษฐกิจช่วยพยุง
  • กลุ่มโรงกลั่นมั่นใจไม่ได้รับผลกระทบหากรัฐปรับสูตรราคาหน้าโรงกลั่นด้วยการยกเลิกค่าพรีเมียม เหตุเจรจาซื้อขายน้ำมันเป็นไปตามสภาพตลาดและไม่ใช้สูตรราคาภาครัฐ
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยส่วนตัวยังไม่สนับสนุนการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์) เพื่อใช้ในภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้ไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง เพราะพลังงานดังกล่าวไม่มีเสถียรภาพและมีความไม่แน่นอนสูง แม้จะมีแบตเตอรี่กักเก็บพลังงาน (เอนเนอร์ยี สตอเรจ) มาสำรองก็ตาม สำหรับถ่านหินหากไม่ใช้ต้องมองถึงก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ที่ส่วนหนึ่งนำเข้ามาแบบแห้งทำเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไม่ได้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BDMS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 26 บาท คาดกำไรปีนี้ที่ 9.1 พันล้านบาท +14% Y-Y จากรายได้ที่ฟื้นตัวทั้งผู้ป่วยไทยและต่างชาติ รวมถึงต้นทุนที่คุมได้ดีขึ้น เพราะการขยายโรงพยาบาลใกล้ถึงเป้าที่ 50 แห่ง และแรงกดดันจากผลขาดทุนของ Wellness Clinic ที่ลดลงจากการเปิดให้บริการช้ากว่าคาด โดย BDMS เป็น 1 ใน 10 หุ้นที่ NVDR ซื้อหนักสุด โดยตั้งแต่ต้นปีซื้อไปถึง 1.8 พันล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ซื้อเพียง 775 ล้านบาท และค่าเบต้าต่ำเพียง 0.3 เหมาะใช้เป็นที่พักเงินในช่วงตลาดอ่อนแรง
  • CPN (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ทยอยสะสม" เป้า 89 บาท ในเดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลงจากระดับสูงสุดประมาณ 13% โดยคาดกำไรปีนี้เติบโตกว่า 22% เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท โดยจะเริ่มบันทึกรายได้จากคอนโดล็อตแรกใน Q1/61 ก่อนจะรับรู้รายได้คอนโดก้อนใหญ่และเปิดศูนย์การค้าใหม่ที่ภูเก็ตใน Q2/61 ส่วนเซ็นทรัลเวิลด์จะปรับปรุงเสร็จใน Q3/61 และศูนย์การค้ามาเลเซียเปิดใน Q4/61 พร้อมคาดกำไรปกติเพิ่มขึ้น 31% QoQ และ 2% YoY เป็น 2,820 ล้านบาท โดยคาดว่า CPN จะเริ่มรับรู้รายได้จากคอนโดที่ระยองล็อตแรกประมาณ 200 ล้านบาท) ขณะที่รายได้ศูนย์การค้าจะถูกผลักดันจากการปรับขึ้นค่าเช่าราว 3% และการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของศูนย์การค้าใหม่ที่เปิดในเดือน พ.ย. 2560 ที่โคราชและมหาชัย ทำให้พื้นที่เช่าเพิ่มขึ้น 5%
  • CPALL (คันทรี่ กรุ๊ป) "ซื้อ"เป้า 90 บาท คาดกำไรสุทธิปี 61 เติบโต 17%YoY ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศจะหนุนการเติบโตของ SSSG ขณะที่การเข้าประชุมกับผู้บริหารยังคงได้ข้อมูลเชิงบวก กล่าวคือแผนกำหนดเปิดสาขายังคงเดิมคือไม่น้อยกว่าปีละ 700 สาขา เพื่อให้มีสาขาครบ 1.3 หมื่นสาขาในปี 2564 จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 1.04 หมื่นสาขา และยังปรับปรุงแนวคิดให้บริการเดิมภายใต้"อิ่มสะดวก"เป็น"ผู้ให้บริการ"ที่เน้นบริการอื่นๆนอกเหนือด้านอาหารมากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ