นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) เปิดเผยว่า จากการประเมินภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 จะสามารถทำได้ตามแผนงานที่มีเป้าหมายผลักดันรายได้เติบโตประมาณ 5% โดยบริษัทฯ สามารถรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรผลิตสินค้าเฉลี่ยที่ระดับ 80% การบริหารจัดการด้าน Product Mix ในกลุ่มสินค้าต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 25-27% โดยบรรยากาศการซื้อสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้างช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคดีขึ้นจึงทำให้มีการจับจ่ายซื้อสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างเพื่อนำไปก่อสร้างและซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ยอดขายสินค้าในช่องทางการจำหน่ายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และกลุ่มร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยปรับตัวดีขึ้น
ส่วนกลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์นั้น มีอัตราการเติบโตที่ดีเช่นเดียวกัน จากปัจจัยที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายต่างลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มขึ้น ซึ่ง DRT มีความพร้อมในด้านกำลังการผลิตและความหลากหลายของสินค้าที่สามารถนำไปใช้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้ทั้งหลัง รวมถึงการมีทีมช่างมืออาชีพให้บริการติดตั้งระบบหลังคา จึงช่วยตอบสนองงานโครงการให้แก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับกลุ่มสินค้าที่มีอัตราเติบโตที่ดี ได้แก่ กลุ่มไม้สังเคราะห์และกลุ่มระบบหลังคา ซึ่งผู้บริโภคให้ความนิยมนำมาใช้ตกแต่งและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายกลุ่มสินค้าอิฐมวลเบาก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น หลังจากผู้บริโภคให้การยอมรับในตัวคุณสมบัติของสินค้า ประกอบกับบริษัทฯ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้างและเพิ่มความสะดวกในการติดตั้ง จึงทำให้มีความต้องการใช้อิฐมวลเบาเพิ่มสูงขึ้น
"โดยปกติในไตรมาสแรกของทุกปีจะเป็นช่วงฤดูการขาย ซึ่งเราประเมินว่าจะสามารถทำยอดขายในไตรมาสดังกล่าวได้คิดเป็นสัดส่วน 25-30% ของเป้าหมายทั้งปี และหากรักษายอดขายจากช่องทางต่างๆ และอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ดีได้อย่างสม่ำเสมอ ก็น่าจะทำให้ DRT บรรลุเป้าหมายในปี 2561 ที่ต้องการเติบโตไม่ต่ำกว่า 5%" นายสาธิต กล่าว