นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะสามารถรีบาวด์ได้ จากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/61 ของบมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ที่ออกมาค่อนข้างดี ทำให้คาดว่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นอื่น ๆ ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะทยอยประกาศผลประกอบการออกมาด้วย
นอกจากนี้คาดว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกจากการเจรจาสันติภาพระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งน่าจะทำให้สงครามในคาบสมุทรเกาหลีคลายตัว ประกอบกับตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย
"เมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างมากจาก CPALL ที่ดึง Sentiment ของตลาดหุ้นลง ซึ่งวันนี้ต้องจับตาดูว่าจะสามารถฟื้นตัวได้หรือไม่ ถ้าสามารถฟื้นตัวได้จะทำให้ Sentiment ของตลาดปรับตัวเป็นบวกตามตลาดหุ้นในภูมิภาคได้" นายภาดล กล่าว
พร้อมให้แนวรับ 1,750 จุด ส่วนแนวต้าน 1,765 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 เม.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,786.63 จุด พุ่งขึ้น 213.59 จุด (+0.87%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,706.39 จุด เพิ่มขึ้น 28.55 จุด (+1.07%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,281.10 จุด เพิ่มขึ้น 124.81 จุด (+1.74%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 81.42 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 25.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 407.20 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 32.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 13.78 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 23.49 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 เม.ย.61) 1,755.53 จุด ลดลง 11.64 จุด(-0.66%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,823.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 เม.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 เม.ย.61) ปิดที่ระดับ 66.52ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 เม.ย.61) ที่ 6.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.21/23 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดยังจับตาสถานการณ์ในซีเรีย มองกรอบวันนี้ 31.17-31.25
- ครม. ไฟเขียวมาตรการภาษี ลดค่าธรรมเนียม หนุนธนาคารพาณิชย์ไทย ควบรวมกิจการ หวังมีขนาดใหญ่ขึ้นแข่งขันกับต่างประเทศได้ คาดทำรัฐสูญรายได้ 600-1,400 ล้านบาท แต่สร้างการลงทุนเพิ่มหลายพันล้านบาท ขณะวงการแบงก์ เผยยังไร้สัญญาณควบรวม เชื่อมาตรการรัฐเตรียมพร้อมเผื่ออนาคต ขณะธปท.ลั่นเป็นการส่งเสริม ไม่บังคับ
- รมว.ท่องเที่ยว "วีระศักดิ์" ปลื้มกิจกรรมกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองช่วงสงกรานต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เงินสะพัด 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรวม 6 วัน พุ่ง 378 ราย โคราชสูงสุด เชียงใหม่บาดเจ็บมากสุด "บิ๊กป้อม" เผยยอดตายพุ่งเหตุรถมาก ไม่สวมหมวกกันน็อก-เมาแล้วขับ
- "พาณิชย์" เกาะติดความขัดแย้งในซีเรีย พบมีแนวโน้มผ่อนคลายลง หลังหลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการเจรจา และสหรัฐฯ มีท่าทีอ่อนลง ปฏิเสธคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียเพิ่ม ยันเป็นผลดีต่อไทย ที่จะส่งออกสินค้าไปรัสเซียได้เพิ่มขึ้น คาดยูเอ็นก็จะไม่คว่ำบาตรอิหร่าน ทำให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพต่อไป ย้ำยังคงเป้าส่งออกปีนี้ที่ 8% และเงินเฟ้อที่ 0.7-1.7%
- รมว.คลังแจง 'เวิลด์แบงก์' กฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ของไทยไม่ได้เป็นอุปสรรคลงทุนภาครัฐ ระบุใช้หลักสากลช่วยประเทศชาติประหยัดปีละ 3 หมื่นล้านบาท แถมไส้ในพบวงเงินงบผูกพันมากขึ้น
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ภาวะการค้าภาคบริการของไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 ดัชนีอยู่ระดับ 106.5 สูงขึ้น 4.9% เทียบเดือนมกราคม 2561 โดยสาขาบริการสำคัญที่ขยายตัวสูงขึ้น ได้แก่การขายปลีก การเงิน การขนส่ง ที่พักแรม และบริการด้านอาหาร ปัจจัยบวกมาจากการขยายตัวสูงของจำนวน นิติบุคคลจดทะเบียนเพิ่มทุน มูลค่าส่งออกบริการ และดัชนีราคาหุ้นภาคบริการในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งการขยายตัวต่อเนื่องของมูลค่าทุนจดทะเบียนนิติบุคคลเพิ่มทุน จำนวนนิติบุคคลและมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สุทธิเงินให้กู้ยืมของธนาคารพาณิชย์ และความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ส่วนปัจจัยลบคือการลดลงของการจ้างงาน และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศภาคบริการ
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTGC (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 116 บาท คาดผลกำไรจากการดำเนินงาน Q1/61 ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11,403 ล้านบาท (+1.5%YoY, +1.4%QoQ) หนุนโดยธุรกิจโอเลฟินส์ ช่วยชดเชยผลประกอบการจากการธุรกิจอะโรเมติกส์และโรงกลั่นที่อ่อนตัวลง เมื่อรวมกำไรสต๊อก 180 ล้านบาท และกำไร FX 750 ล้านบาท โดยคาดกำไรสุทธิ 12,302 ล้านบาท ลดลง 6.7% YoY แต่เพิ่มขึ้น 28.7% QoQ อีกทั้ง PTTGC ยังมี Valuation ที่ไม่แพง ด้วย PER 9.7 เท่า ต่ำกว่าคู่แข่งในภูมิภาคและค่าเฉลี่ยในอดีต รวมถึงผลตอบแทนจากเงินปันผลสำหรับปี 2561 ที่ประเมินไว้ที่ 5%
- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 220 บาท คาดกำไรปกติ Q1/61 ที่ 7.9 พันล้านบาท +3% Q-Q, +5% Y-Y ซึ่งเป็นการโตแบบ Y-Y เป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน จากรายได้ที่โตเพราะ ARPU ยังขึ้น และได้ผลดีจากการรวม CSL รวมถึงค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลงตามฤดูกาล ส่วนกำไรทั้งปี 2561 คาดโตครั้งแรกในรอบ 3 ปี 8% Y-Y อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ยอด Short Sales ลดลงเหลือเพียง 5 หมื่นหุ้นต่อวัน จากค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ 1.3 แสนหุ้นต่อวัน ถือเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกระยะสั้น
- PSL (ไอร่า) เป้า 18 บาท คาด Q1/61 เป็นช่วง Low Season ที่ปกติเรือใหม่มักเข้าสู่อุตสาหกรรมในช่วง ม.ค. รวมถึงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน และผลกระทบจากการลดกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมหนักของจีนเพื่อควบคุมมลพิษที่จะจบมาตรการลงใน มี.ค. ทำให้คาดผลประกอบการของ PSL จะเร่งตัวขึ้นได้อีกครั้งใน Q2/61 ทำให้มองว่า"เป็นโอกาสในการสะสมหุ้น" พร้อมคาดปี 61 ภาวะอุปสงค์-อุปทาน เข้าสู่สมดุลมากขึ้น โดยเฉพาะ Orderbook เรือ Handysize และ Supramax ซึ่งเป็นเรือหลักของ PSL อยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี และ 13 ปี ที่ 7.8% และ 1.7% ตามลำดับ สอดคล้องกับที่ประเมินว่า Supply ของเรือเทกองในปี 61 จะเพิ่มขึ้นเพียง 1%