AEC มองกรอบ SET สัปดาห์นี้รีบาวด์ต่อในกรอบ 1,755-1,780 จุด แนะจับตาปัญหาสหรัฐฯ-รัสเซียหวั่นฉุดการลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 18, 2018 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เออีซี (AEC) มองกรอบการลงทุนหุ้นไทยประจำสัปดาห์นี้ (17-20 เม.ย.) SET Index จะมีโอกาสแกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวรับที่ระดับ 1,755-1,760 จุด และแนวต้านที่ระดับ 1,780 จุด แม้กราฟสัญญาทางเทคนิค (Technical) SET น่าจะรีบาวด์ต่อ แต่ยังแนะให้จับตาความคืบหน้าของปัญหาระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย อย่างใกล้ชิด หลังล่าสุดความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแย่ลงมาก

ฝ่ายวิจัยมีกลยุทธ์แนะนำการลงทุน"แบ่งซื้อสะสม"โดย Selective Buy หุ้นที่คาดจะ Outperform ให้น้ำหนักไปยังหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งได้อานิสงส์ราคาน้ำมันยังสูงเกิน 65 ดอลลาร์/บาร์เรล มองว่าที่จะเป็นตัวนำของกลุ่ม ได้แก่ PTT, PTTEP ขณะเดียวกันหุ้น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ คาดว่าจะยังฟื้นตัวต่อหลังปรับลงแรงก่อนหน้า โดยให้น้ำหนักการลงทุนไปยังหุ้น KBANK, SCB, BBL, TMB

นอกจากนี้ ยังคงแนะนำจับตาหุ้น กลุ่ม Domestic Play ที่ยังโตแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก อาทิ HMPRO, CPALL, BJC ขณะที่หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล อาทิ BCH, RJH หุ้นกลุ่มโรงแรม MINT, ERW หุ้นกลุ่มบันเทิง RS, MONO, WORK ยังเป็นหุ้นที่น่าลงทุน พร้อมทั้งยังแนะจับตาหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เกิน 3% โดยจะขึ้น XD เม.ย.–พ.ค. นี้ ได้แก่ KKP, AIT, SC, AP, LH

"จากกราฟสัญญาทางเทคนิค เชื่อว่า SET สัปดาห์นี้น่าจะรีบาวด์ต่อ โดยมีแนวต้านแรกที่ 1,780 จุด หากทะลุมองแนวต้านถัดไป 1,805 จุด โดยมองแนวรับสัปดาห์นี้ บริเวณ 1,755-1,760 จุด ทั้งนี้ให้ระมัดระวัง หาก SET ปิดหลุดต่ำกว่าแนวรับที่กำหนด แนะนำให้ Stop Loss ก่อน โดยกลุ่มที่คาดว่าปรับตัวบวก ได้แก่ กลุ่มธนาคาร อาทิ BANK , BBL, TISCO และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาทิ AMATA, WHA"

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัย แนะนำให้นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของปัญหาระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแย่ลงมาก หลังสหรัฐฯ ร่วมกับอังกฤษและฝรั่งเศส ได้ยิงขีปนาวุธถล่มแหล่งผลิตอาวุธเคมีของซีเรียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และกล่าวหารัสเซียว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนการโจมตีกลุ่มกบฎในซีเรีย เมื่อวันที่ 7 เม.ย.พร้อมเตรียมประกาศคว่ำบาตรบริษัทรัสเซียที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลซีเรียเพิ่มเติม เพื่อกดดันทางด้านเศรษฐกิจ

ประเด็นดังกล่าวยังอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างอ่อนไหว โดยเบื้องต้นประเมินว่าหากสถานการณ์ในซีเรียยังไม่สามารถคลี่คลายได้ หรือลุกลามไปสู่กลุ่มประเทศตะวันออกกลางอื่น อาจส่งผลต่ออุปทานน้ำมันดิบจากฝั่งตะวันออกกลาง รวมถึงกดดันภาวะการค้าโลกโดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีการส่งออกไปยังตะวันออกกลางเป็นสัดส่วนสูง สร้างความกังวลต่ออัตราเติบโตของเศรษฐกิจโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ