นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ช ทวี (CHO) หนึ่งในหุ้นส่วนกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ภายใต้การบริหารงานโดย บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) และ CHO ในฐานะคู่สัญญากับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดหารถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คันและซ่อมบำรุง 10 ปี กล่าวว่า กลุ่มเตรียมยื่นขอทุเลาคำสั่งศาลปกครองกลางกรณีที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการจัดหารถเมล์ NGV เนื่องจากบริษัทได้ส่งมอบรถเมล์ NGV ในล็อตแรกไปแล้ว 100 คัน เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
"ฝ่ายกฎหมายของกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO อยู่ระหว่างพิจารณาการขอทุเลาคำสั่งศาลว่าอาจจะมีช่องทางขอความกรุณาจากศาลได้ เนื่องจากเรื่องนี้กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย และไม่ทราบว่ามติของคณะกรรมการ ขสมก.จะชอบหรือไม่ชอบตามกฎหมาย เมื่อขสมก.เรียกกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ไปเซ็นสัญญา ถ้าไม่ไปทำสัญญาก็ต้องถูกริบเงินประกัน 400 ล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ทำสัญญาด้วยความสุจริตใจ และได้เริ่มดำเนินการส่งมอบรถไปแล้ว ดังนั้นศาลอาจจะมีวิธีพิจารณา ซึ่งกลุ่มฯจะยื่นต่อศาลให้พิจารณา"นายสุรเดช กล่าว
ขณะนี้ทางกลุ่ม SCN-CHO ยังไม่ได้รับหนังสือจาก ขสมก.ให้ระงับการส่งมอบ บริษัทจึงยังต้องทำตามสัญญาที่เตรียมส่งมอบรถเมล์ NGV ล็อตที่ 2 จำนวน 100 คันในวันที่ 26 เม.ย.61 หลังจากส่งมอบล็อตแรกแล้ว 100 คันเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาดว่า ขสมก.จะส่งหนังสือมาให้เร็วๆนี้ หรือก่อนวันที่ 26 เม.ย.นี้ว่าควรจะดำเนินการอย่างไรหลังศาลปกครองมีคำสั่งอออกมาดังกล่าว ถ้า ขสมก.จะสั่งระงับการส่งมอบ ก็ต้องมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรมาก่อน
นายสุรเดช กล่าวว่า เรื่องสัญญากับรัฐนั้น ทางกลุ่มฯมีทนายดูแลเรื่องนี้อยู่ แต่เท่าที่อ่านมติบอร์ด และกรรมการที่ไม่เห็นด้วย 3 คนเป็นคนให้ข้อมูลกับศาล ซึ่งทาง ขสมก.คงมีการแย้งข้อนี้กับศาล ขณะที่ บริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ ซึ่งเป็นผู้ร้องนั้น ก็ไม่ทราบวัตถุประสงค์ เพราะอ้างว่าเป็นผู้เสียหาย ทั้ง ๆ ที่ซื้อซองประมูลมาในราคา 500 บาท แต่ไม่ได้เข้าร่วมประมูล จึงตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทนี้เป็นนอมินีของใครหรือไม่
อย่างไรก็ดี คาดหวังว่าเรื่องนี้จะผ่านพ้นไปได้ เพราะบริษัทจะทำโครงการต่อไปร่วมกับ ขสมก.ในการเปลี่ยนรถเมล์ในเขตกรุงเทพ
นายสุรเดช คาดว่าการส่งมอบรถเมล์ NGV ล็อตแรก จำนวน 100 คันน่าจะเก็บเงินได้ภายใน 45 วันหลังวันส่งมอบ ส่วนอีก 389 คันหากส่งมอบไม่ได้ ทาง CHO จะรับความเสียหายมากหาก ขสมก.สั่งระงับการส่งมอบ ส่วนกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ก็คงมีผลกระทบแต่ไม่มากนัก ขณะที่สัญญาซ่อมบำรุงรถเมล์ NGV จะเริ่มหลังจากส่งมอบรถแล้วเสร็จ โดยมีระยะเวลาสัญญา 10 ปี
ทั้งนี้ กรณีเลวร้ายสุด หากบริษัทไม่ได้รับเงินก็คงไม่สามารถจ่ายค่ารถให้กับพันธมิตรจีนที่เป็นผู้ผลิตรถ แต่ก็คาดหวังว่าได้รับเงินล็อตแรก แต่ล็อตที่เหลือคงเป็นความเสียหาย ทั้งนี้พันธมิตรจีนก็จะเริ่มหารือกับทาง CHO แล้วว่าเกิดกรณีเช่นนี้จะช่วยเหลือกันอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดกรณีเช่นนี้ ซึ่งความเสียหายรอบที่แล้วประมาณ 57 ล้านบาท แต่รอบนี้คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่น่ามากกว่าครั้งก่อน เพราะรอบนี้เราระมัดระวังมากขึ้น
นายสุรเดช ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวจะไม่กระทบกับผลประกอบการของ CHO ในปีนี้ แม้ว่าบริษัทจะรับรู้รายได้ส่งมอบรถ 100 คัน แทนที่จะเป็น 489 คัน แต่สินค้ากลุ่มอื่นก็ยังมียอดขายที่ดี ดังนั้น จะไม่ทำให้บริษัทพลิกมาขาดทุน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ายอดขายอาจจะลดลงจากที่คาดไว้ แต่อัตรากำไรยังคงเท่าเดิม โดยโครงการดังกล่าวเป็นส่วนเพิ่มเติมเข้ามาไม่ใช่รายได้หลัก