นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท บีจีวาย แอนด์ ทีเอฟดี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัททีเอฟดี ถือหุ้นสัดส่วน 51% กับ กลุ่มบริษัท ริชแลนด์ ถือหุ้น 49% ได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจากธนาคารกรุงเทพ (BBL) มูลค่า 2.7 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม Artisan Rachada มีมูลค่าโครงการรวม 6.8 พันล้านบาท ซึ่งได้เปิดพรีเซล เมื่อต้นปี 2561 ได้รับความสนใจมาก โดยเฉพาะลูกค้าต่างชาติ ล่าสุดมียอดพรีเซลทะลุเกิน 50% หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 3.4 พันล้านบาท ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถปิดโครงการได้ในเร็วๆนี้
โครงการ Artisan Rachada เป็นอาคารสูง 34 ชั้น จำนวน 4 อาคาร จำนวน 1,337 ยูนิต บนเนื้อที่ 8 ไร่ รวมพื้นที่ทั้งสิ้นกว่า 123,000 ตารางเมตร มีทำเลตั้งอยู่ย่านรัชดาภิเษก บนถนนเทียมร่วมมิตร ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม ปัจจุบันมีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปมากแล้ว และจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี 6 เดือน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ในปลายปี 2562 และโอนทั้งโครงการในปี 2563 อย่างไรก็ตามโครงการนี้คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 3 พันล้านบาท ในช่วงปลายปี 2562 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง
ในเดือนพฤษภาคมนี้ โครงการ Artisan Rachada มีความพร้อมจะเริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการ และเปิดให้ลูกค้าที่สนใจเข้าเยี่ยมชมห้องตัวอย่างได้แล้ว และคาดว่าจะได้รับความสนใจเป็นอย่างดี เพราะเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง บนถนนรัชดาภิเษก เหมาะสมกับการซื้อเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และสามารถซื้อเพื่อเป็นการลงทุนในอนาคต ซึ่งมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีได้อีกด้วย
นอกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มที่ดีแล้ว ในส่วนของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่ดินนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 บนพื้นที่ 841 ไร่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาและเปิดขายนั้น ปัจจุบันมีความพร้อมสามารถโอนที่ดินให้กับลูกค้าได้แล้วซึ่งจะส่งผลให้เกิดการรับรู้รายได้เข้ามาทันที
ทั้งนี้ พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง โดยเชื่อมต่อกับนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 1 โดยตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกง ซึ่งเป็นโซนในแผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ขนานกับถนนมอเตอร์เวย์ยาว 4 กิโลเมตร ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และท่าเรือแหลมฉบัง และใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพไปฉะเชิงเทราไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ลงทุนด้านสาธารณูปโภครองรับไว้พร้อมสรรพแล้ว ในขณะที่ราคาขายยังคงไม่ได้ปรับขึ้นแม้ว่าราคาที่ดินในโซนใกล้เคียงจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 10-15 ล้านบาทต่อไร่แล้ว จึงเหมาะทั้งเพื่อพัฒนาสร้างโรงงานอุตสาหกรรม และซื้อลงทุนระยะยาว โดยกำหนดขายพื้นที่ขนาด 5 ไร่ขึ้นไป
ล่าสุดนายแจ็ค หม่า ประธานบริหารของกลุ่มอาลีบาบา เดินทางมาไทยในวันที่ 19 เม.ย.2561 เพื่อร่วมลงนามกับกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องแผนการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยจะมีการลงทุนสร้างศูนย์สมาร์ท ดิจิทัล ฮับ ในพื้นที่ EEC เงินลงทุน 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งศูนย์ฯ นี้จะใช้เทคโนโลยีของอาลีบาบาในการประมวลข้อมูลโลจิสติกส์ เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีน การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และไปยังที่อื่นทั่วโลก เพื่อให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งยังมีโครงการอื่น ๆ อีก
"เมื่อแจ๊คหม่าเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซี น่าจะช่วยสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพ และอนาคตที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งนิคมทีเอฟดี 2 ก็น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน"นายอภิชัย กล่าว