กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) รายงานว่า ในไตรมาส 1/61 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 1,513 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.0% เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาส 4/60 หากเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/60 กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อยที่ 0.7% ทางด้านรายได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 3,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% จากไตรมาส 1/60 โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 22.3% ตามปริมาณการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ
ทั้งนี้ สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 มี.ค.61 มีจำนวน 273,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากสิ้นปี 60
ขณะที่ ณ สิ้นเดือน มี.ค.61 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งรวมกำไรถึงสิ้นปี 59 อยู่ที่ 15.96% โดยเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 12.87% แต่หากรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 1/61 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะเท่ากับ 18.05% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 14.96%
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/61 สินเชื่อของธนาคารมีการขยายตัว 5.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 60 โดยสินเชื่อมีการขยายตัวในเกือบทุกประเภท รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อที่เริ่มมีการขยายตัวที่ 0.7% หลังจากที่มีการหดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นมา โดยตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อรวมทั้งปีที่ราว 10%
ในด้านคุณภาพของสินเชื่อมีปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษทัย่อยจำนวน 9,673 ล้านบาท คิดเป็น 4.7% ของสินเชื่อรวม โดยเป็นอัตราส่วนที่ลดลงจาก ณ สิ้นปี 60 ที่ 5.0% โดยปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพยย์ยังคงมีการปรับตัวลดลงจากสิ้นปี 60
ทางด้านธุรกิจบริหารหนี้ธนาคารขายทรัพย์รอการขายได้ในไตรมาส 1/61 จำนวน 317 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายทรัพย์รอการขาย 160 ล้านบาท ส่วนหนี้สินรวม (เงินฝากและอื่นๆ) มีจำนวน 230,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0% จากสิ้นปี 60
ทางด้านธุรกิจตลาดทุนในส่วนของธุรกิจนายหน้า (Brokerage Business) โดย บล.ภัทร ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และตราสารอนุพันธ์แก่ลูกค้าประเภทสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ภายใต้บริการ Private Wealth Management สำหรับไตรมาส 1/61 บล.ภัทร มีรายได้ค่านายหน้า 396 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 353 ล้านบาท รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ 34 ล้านบาท และรายได้ค่านายหน้าอื่น 9 ล้านบาท นอกจากนี้ บล.ภัทร ยังมีรายได้ค่านายหน้าจากาการเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุน 143 ล้านบาท
ธุรกิจวานิชธนกิจ (Investment Banking Business) ประกอบธุรกิจวานิชธนกิจ ให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในไตรมาส 1/61 บล.ภัทร มีรายได้รวม 67 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ที่ปรึกษาทางการเงิน 60 ล้านบาท และรายได้การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 7 ล้านบาท
ธุรกิจการลงทุน (Investment Business) ปี 2559 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมจากธุรกิจลงทุนจำนวน 234 ล้านบาท
ธุรกิจจัดการกองทุน (Asset Management Business) โดย บลจ.ภัทร ณ วันที่ 31 มี.ค.61 มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการของกองทุนเป็นจำนวน 63,998 ล้านบาท มีกองทุนภายใต้การบริหารรวม 24 กองทุน