นายสวิจักร์ โลจายะ ประธานกรรมการ บมจ.เอเวอร์แลนด์ (EVER) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 61 มีแนวโน้มที่ดี และมีโอกาสจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 278 ล้านบาท และจะเห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีหน้า เนื่องจากโครงการแนวสูงที่พัฒนาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจำนวน 3 โครงการ อีกทั้งยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 6,000 ล้านบาทในมือที่จะทยอยโอนในปีนี้ และ 2 ปีข้างหน้า(ปี 62 -63 ) โดยปีนี้บริษัทวางเป้ารายได้ 1,500-2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนที่จะพัฒนาโครงการแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์และโครงการแนวสูงให้มีสัดส่วน 50:50 ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่พอร์ตรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากโครงการแนวสูงเพื่อลดความเสี่ยงและเป็นการบริหารพอร์ตให้มีความเหมาะสม โดยจะทยอยเห็นความสมดุลดังกล่าวได้ในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ แนวราบมูลค่ารวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ "เอเวอร์ ซิตี้" และ "มายโฮม เอเวอร์นิว" โดยโครงการบ้านเดี่ยว ด่วนรามอินทรา- จตุโชติ คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมนี้ ภายใต้แบรนด์ " มายโฮม อเวนิว" ส่วนอีก 3 โครงการจะเป็นโครงการทาวน์โฮม แบรนด์ "เอเวอร์ ซิตี้ " ในย่านทำเลสุขสวัสดิ์ , บางนา หนามแดง ฯลฯ จะทยอยเปิดในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทได้มีการซื้อที่ดินเพื่อรอการพัฒนาไว้เรียบร้อยแล้ว
นายสวิจักร์ กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้ราว 90% มาจากรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะจากโครงการเดอะ โพลิแทน บรีซ มูลค่าโครงการรวม 1,900 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 นี้และเริ่มโอนในเดือนตุลาคมนี้ ปัจจุบันมียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการสูง 8 ชั้น 4 อาคารจำนวน 587 ห้อง
ขณะทีโครงการคอนโดมีเนียม เดอะ โพลิแทน ริฟ สูง 57 ชั้น จำนวน 2,351 ห้อง มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขาย 5,000 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกปี 2562 และโครงการคอนโดมีเนียม เดอะ โพลิแทน อควา สูง 61 ชั้น จำนวน 2,741 ห้อง มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปี 2563 และเริ่มโอนในปี 2563 ปัจจุบันมียอดจอง 60%
"เชื่อว่าทิศทางการดำเนินธุรกิจของเราในปี 61 สดใส ส่วนปี 62 ก็จะก้าวกระโดดเพราะมูลค่าที่โอนค่อนข้างมากทีเดียว ส่วนธุรกิจโรงพยาบาล ซึ่งบริษัทฯเข้าลงทุนผ่าน บริษัท มาย ฮอสพิทอล จำกัด เชื่อว่าจะมีการเติบโตควบคู่กันไปแต่ ไม่หวือหวา หลัก ๆ เป็นการเพิ่มศักยภาพ และการวางแผนปรับปรุงระบบภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นมากกว่า"นายสวิจักร์ กล่าว