นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และแอพพลิเคชั่นทางด้าน Fintech และลงทุนในธุรกิจ Srarted-up ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.เจ มาร์ท (JMART) เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมนำ JFIN Coin จำนวน 100 ล้านโทเคน เข้าทำการซื้อขายในตลาดรองเป็นครั้งแรก (1st Trading Day) วันที่ 2 พ.ค.61 พร้อมเข้าถึงผู้ลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่านตัวกลางพันธมิตร คือ COIN ASSET ซึ่งเป็นกระดานเทรด Cryptocurrency
นอกจากนี้ ยังเพิ่มกระดานเทรดใน Cash2Coins ในวันที่ 9 พ.ค.61 และวางแผนไปในเทรดในกระดานต่างประเทศที่ HitBTC ที่ฮ่องกง และ Upbit ที่เกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้ ในส่วนของการเลือกตลาดเพื่อเทรดนั้น ทาง JVC ได้พิจารณาจากความน่าเชื่อถือ และเพื่อให้นักลงทุนสามารถดำเนินการซื้อขายได้อย่างสะดวกและปลอดภัยที่สุด
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ นำมาใช้พัฒนาระบบ JFIN Decentralized Digital Lending Platform (DDLP)ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการการกู้ยืมที่อยู่บนระบบบล็อคเชนมีความปลอดภัยสูง ตั้งแต่การระบุตัวตนของผู้กู้และผู้ให้กู้ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ การประเมินเครดิต การอนุมัติสินเชื่อและการติดตามหนี้สิน เพื่อสนับสนุนและพัฒนาการบริการด้านสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริหารจัดการโดยอัตโนมัติ เชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายในระบบนิเวศ (Ecosystem) เข้าด้วยกัน มีทั้ง ผู้กู้ ผู้ให้กู้ ผู้ให้เครดิตและผู้ให้บริการพิเศษต่างๆ ที่รองรับการทำธุรกรรมทั้งหมด รวมถึงรองรับระบบตลาดสินเชื่อแบบไม่มีตัวกลาง เช่น P2P ที่เชื่อมต่อให้ผู้กู้ที่มีศักยภาพสามารถกู้เงินโดยตรงกับผู้ให้กู้โดยตรง
ดังนั้น ระบบ DDLP ที่พัฒนานี้จะเป็นหนึ่งในระบบสำคัญที่เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของกลุ่ม บมจ.เจมาร์ท (JMART) ในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน ให้สามารถเข้าถึงประชากรได้อีกจำนวนมากโดยเริ่มต้นนี้ JVC พัฒนาระบบให้ J Fintech บริษัทในเครือโดยใช้พื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเริ่มใช้งานในไตรมาส 4/62 ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นที่ใช้ระบบบล็อกเชนในการทำธุรกรรม จึงสามารถใช้เหรียญเข้ามาทำธุรกรรมต่างๆ ได้
อย่างไรก็ตาม กระบวนการดังกล่าวต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของหน่วยงานทางการ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะออกมากำหนดด้วย นอกจากนี้ JVC ไม่หยุดนิ่ง ยังพัฒนาแพลตฟอร์มอื่นๆ อีก เพื่อสร้างการเติบโตและความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำในธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์และแอพพลิเคชั่นทางด้านฟินเทคให้ได้รับการตอบรับมากขึ้นในอนาคต
"JFIN Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) มีกลุ่มเจมาร์ทเป็นจุดแข็งสำคัญ ซึ่งมี Ecosystem นำมาต่อยอดธุรกิจสินเชื่อและการเงินภายในกลุ่ม มุ่งเน้นการจับกลุ่มลูกค้าที่มีเครดิตดี วิเคราะห์จากฐานข้อมูลลูกค้าของกลุ่มเจมาร์ทที่มีรวมกันราว 7 ล้านราย โดยมีบมจ.เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพเป็นกุญแจสำคัญทำให้รับความเสี่ยงได้มากกว่าและจับมือพันธมิตรและกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ สนับสนุนข้อมูลให้แก่บริษัทฯ ให้มีมากกว่า Big Data ที่สามารถสร้าง Credit scoring หรือการประเมินการขอสินเชื่อบุคคลโดยอัตโนมัติผ่านเทคนิคการให้คะแนนเครดิตผ่านข้อมูลต่างๆ ที่ระบุไว้ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น" นายธนวัฒน์ กล่าว
อนึ่ง JFin Coin ออกเงินดิจิทัลทั้งหมด 300 ล้านโทเคน ทำ ICO ในรอบนี้ครั้งแรก 100 ล้านโทเคน เปิดเสนอขาย Pre-sale วันแรกเมื่อวันที่ 14 ก.พ.61 ส่วนอีก 200 ล้านโทเคนที่เหลือ บริษัทเตรียมไว้สำหรับส่วนต่างๆ แบ่งเป็นให้สิทธิแก่กลุ่มเจมาร์ทซื้อในจำนวน 70 ล้านโทเคน และสำหรับพันทมิตรสำคัญของบริษัทมีสิทธิ์ซื้อในจำนวน 40 ล้านโทเคน และส่วนที่เหลืออีก 90 ล้านโทเคน เตรียมสำหรับใช้ ICO ในอนาคต