บล.เออีซี คาด SET Index สัปดาห์นี้แกว่งในกรอบ 1,780-1,820 จุด จับตา Bond Yield สหรัฐพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 23, 2018 14:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.เออีซี (AEC) มองทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ ฝ่ายวิจัยให้กรอบการลงทุน 1,780-1,820 จุด พร้อมแนะนำให้จับตาผลตอบแทนพันธมิตรสหรัฐ (10Yr-US Bond Yield) ล่าสุดปรับขึ้นแตะระดับ 2.96% นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีหลังนักลงทุนคาดอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะมีทิศทางเร่งตัวมากขึ้น สอดคล้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกทั้งโลหะและน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังไม่ได้ข้อยุติและมีโอกาสยืดเยื้อต่อไป ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และสร้างความกังวลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น

อย่างไรก็ดี มองว่าการปรับขึ้นของตัวเลขดังกล่าวจะยังไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของเฟดให้แตกต่างไปจากเป้าเดิมที่ 3 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากในช่วงสั้นการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะยังไม่กระทบต่อดัชนีราคาผู้บริโภค (Core CPI)และดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลที่เฟดใช้เป็น Indicator สำคัญที่สะท้อนถึงระดับเงินเฟ้อของภาคครัวเรือน ทำให้คาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสฟื้นตัวได้

ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยมองว่า แม้ดัชนีมีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้หลังราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูงและคลายกังวลสถานการณ์ต่างประเทศ แต่มองกรอบการขึ้นยังจำกัดจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นและอยู่ระหว่างติดตามงบการเงินไตรมาส 1/61 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยกลยุทธ์ลงทุนแนะนำ "Selective Buy โดยไม่ไล่ราคาในหุ้นที่คาดจะ Outperform ตลาด

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งได้อานิสงส์ราคาน้ำมันยังสูงเกินระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล เช่น PTT, PTTEP หุ้นที่คาดว่างบไตรมาส Q/61 จะออกมาเติบโตดี YoY เช่น HMPRO, CPALL, BJC, MINT, ERW, RS, MONO, BCH หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก EEC เช่น AMATA, WHA, ROJNA, SEAFCO และหุ้นจ่าย Div. Yield เกิน 3% โดยจะขึ้น XD พ.ค. นี้ เช่น KKP, SC, AP, LH

นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นกลุ่มที่คาดว่าปรับตัวบวก ได้แก่ กลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง เช่น PYLON, SEAFCO กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ เช่น AMANAH, THANI


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ