สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (17 - 20 เมษายน 2561) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 326,342.25 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 81,585.56 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 5% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 65% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 211,607 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดย กระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 87,076 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขาย เท่ากับ 13,251 ล้านบาท หรือคิดเป็น 27% และ 4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB226A (อายุ 4.2 ปี) LB26DA (อายุ 8.7 ปี) และ LB316A (อายุ 13.2 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 19,503 ล้านบาท 17,171 ล้านบาท และ 10,301 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุ่น BAY186A (AAA(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 1,281 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น FPHT213A (AA-) มูลค่าการซื้อขาย 787 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รุ่น TBEV283A (AA) มูลค่าการซื้อขาย 679 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1-4 bps. ด้านปัจจัยต่างประเทศ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ ทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" โดยระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเป็นบวก อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในหลายภาคส่วนที่ต้องมีการทำสัญญาด้านการค้า ซึ่งรวมถึง ภาคการผลิต การเกษตร และการขนส่งนั้น ได้แสดงความวิตกกังวลว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯอาจจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ขณะที่รายงาน อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่น เดือนมี.ค. ขยายตัว 1.1% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ตลาดติดตามผลการประชุม ECB (26 เม.ย.) และรายงาน GDP ไตรมาส 1/2561 ของสหรัฐฯ (27 เม.ย.)
สัปดาห์ที่ผ่านมา (17 – 20 เม.ย. 2561) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 6,092 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิใน ตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 6,615 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 1,854 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครอง โดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 1,331 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (17 - 20 เม.ย. 61) (9 - 12 เม.ย. 61) (%) (1 ม.ค. - 20 เม.ย. 61) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 326,342.25 344,308.86 -5.22% 6,825,584.43 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 81,585.56 86,077.22 -5.22% 92,237.63 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 107.7 107.8 -0.09% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 105.69 105.72 -0.03% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (20 เม.ย. 61) 1.1 1.31 1.38 1.63 1.88 2.57 2.96 3.34 สัปดาห์ก่อนหน้า (12 เม.ย. 61) 1.1 1.27 1.36 1.61 1.84 2.56 2.93 3.31 เปลี่ยนแปลง (basis point) 0 4 2 2 4 1 3 3