นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/61 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 3,913 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ มีจำนวน 1,899 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 297 ล้านบาท หรือ 18.54% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์ของธนาคารธนชาต โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ที่มุ่งเน้นในการเป็นธนาคารหลัก (Main Bank) เป็นผลให้ ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อย มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นการเติบโตติดต่อกันถึง 13 ไตรมาสแล้ว
ฐานรายได้รวมของบริษัทฯและบริษัทย่อย ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ จำนวน 7,456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 369 ล้านบาท หรือ 5.21% จากปริมาณสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 3,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.86% เป็นผลจากกำไรสุทธิจากเงินลงทุนและรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ ประกอบกับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานปรับลดลงเล็กน้อย
ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ มีจำนวน 1,706 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 266 ล้านบาท หรือ 18.47% มีสาเหตหลักจากการเพิ่มขึ้น ของ รายได้ค่าธรรมเนียมจากการจัดการกองทุนค่านายหน้า จากธุรกิจหลักทรัพย์ และค่านายหน้าจากการเป็นตัวแทน ขายประกันภัยและประกันชีวิต
ส่วนรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ มีจำนวน 1,814 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 389 ล้านบาท หรือ 27.30% มีสาเหตุหลักจากกำไร สุทธิจากเงินลงทุน เพิ่มขึ้น 276 ล้านบาท รายได้จากการรับประกันภัย/ประกันชีวิตสุทธิเพิ่มขึ้น 101 ล้านบาท และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกรรมเช่าซื้อ
ทั้งนี้ สินทรัพย์รวมของกลุ่มธนชาตปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปีที่ผ่านมา สอดคล้องไปกับการขยายตัวของสินเชื่อ ซึ่งเป็นการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อ SME โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อเช่าซื้อที่เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องนอกจากธุรกิจธนาคารที่เติบโตแล้ว TCAP ยังมีธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ซึ่ง Active เพิ่มขึ้น ล่าสุดได้ซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินอื่นเข้ามาบริหารเพิ่มเติม