น.ส.หลุยส์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทรทัน โฮลดิ้ง (TRITN) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมดำเนินการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ 311 ล้านบาท หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้อนุมัติให้นำส่วนเกินมูลค่าหุ้นจำนวน 548 ล้านบาทมาใช้ได้ ซึ่งคาดว่าบริษัทจะสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลได้ในปี 62
อนึ่งนี้ TRITN กำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของ TRITN ในปี 61 คาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 38.81 ล้านบาท โดยได้รับผลดีจากการเติบโตของธุรกิจบริษัทย่อย คือ บมจ.สเตรกา (STREGA) เป็นหลัก ซึ่ง TRITN ถือหุ้นในสัดส่วน 84% และน่าจะส่งผลดีต่อรายได้ในปีนี้ที่น่าจะเติบโต 80% จากปีก่อนอยู่ที่ 969.75 ล้านบาท
การดำเนินงานของบริษัท STREGA ในปีนี้ ยังคงเข้าไปประมูลงานขุดเจาะในโครงการภาครัฐอย่างต่อเนื่อง รวมถึงงานภาคเอกชนด้วย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตามงานโครงการเมกะโปรเจกต์ เช่น งานประเภทราง เป็นต้น มูลค่างานโครงการละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าภาครัฐจะเปิดประมูลในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะได้รับงานราว 10-15%
ปัจจุบัน STREGA มีงานในมือ (Backlog) ราว 3 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้มากกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้และกำไรสุทธิที่จะเติบโตดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน STREGA ยังขยายการรับงานไปยังต่างประเทศอีกด้วย โดยมีความสนใจในภูมิภาคใกล้เคียง โดยเฉพาะเวียดนามและเมียนมา คาดว่าใน 1-2 ปีจากนี้น่าจะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ส่วนธุรกิจให้เช่าป้ายโฆษณาหรือสื่อนอกบ้านของบริษัทย่อย คือ บมจ.สแพลช มีเดีย (SPLASH) คาดว่าปีนี้ยังคงสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน SPLASH มีป้ายโฆษณาทั้งสิ้น 70 ป้าย และมีอัตราการเช่าป้ายโฆษณาเฉลี่ย 60-70% ถือว่าใกล้เคียงกับภาพรวมอุตสาหกรรม
น.ส.หลุยส์ กล่าวถึงผลการดำเนินในไตรมาส 1/61 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 4/60 เป็นไปตามการเติบโตของทั้ง 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และธุรกิจสื่อโฆษณา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธุรกิจของบริษัทย่อยที่มีอยู่จะเติบโตได้ดีขึ้น แต่บริษัทก็ยังคงมองหาการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ TRITN มีการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุน
ส่วนแผนการนำ STREGA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างศึกษาและพิจารณา เนื่องด้วยบริษัทฯ ต้องการทำให้บริษัทดังกล่าวมีการเติบโตในระดับที่ดีก่อน ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ
"เรามีการเปลี่ยนแผนเล็กน้อยของการนำ STREGA เข้าตลาด เนื่องจากวันนี้เราต้องการทำให้ STREGA มีรายได้และกำไรสุทธิ เติบโตกว่านี้ ซึ่งเรายังไม่ได้ยกเลิกแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะการอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้บริษัทมีระเบียบแบบแผนที่ดีขึ้น แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เป้าหมายหลัก" น.ส.หลุยส์ กล่าว