หุ้น THANI ราคาวิ่งขึ้น 3.05% มาอยู่ที่ 8.445 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 23.89 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.29 น. โดยเปิดตลาดที่ 8.35 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 8.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 8.35 บาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ราชธานี ลิสซิ่ง (THANI) ที่ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท มองว่าสินเชื่อของบริษัทจะยังคงสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และจากการเข้ามาลงทุนของ Alibaba จะทำให้ e-commerce ของไทยขยายตัวเร็วขึ้น ที่จะเพิ่มความต้องการรถบรรทุก 6 ล้อ เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะพืชผลทางการเกษตร อีกทั้งต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ยังคาดว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจาก TFRS9 ที่น้อย โดยกำไรสุทธิปี 2561-25630 ยังขยายตัวคิดเป็น CAGR เฉลี่ยที่ 19%
ทั้งนี้ คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 1.5 พันล้านบาท (+36%YoY) จากการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้นในปี 2561 ที่ 15% ที่จะได้รับผลบวกจากการขนส่งที่เพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งการขยายสินเชื่อ Fleet (ที่มีความสามารถในการจ่ายชำระสูง) เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มองว่า NPLs ในปี 2018 จะลดลงเข้าสู่ระดับ 3.7% นอกจากนี้มองว่าบริษัทจะมีต้นทุนทางการเงินลดลงจากหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดภายในวันที่ 2 พ.ค..2561 จำนวน 2 พันล้านบาท (อัตราดอกเบี้ย 4.75%) และบริษัทมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสัดส่วนเงินกู้ระยะยาวเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ ส่งผลให้คาดว่าต้นทุนทางการเงินในระยะยาวอยู่ที่ 2.5% แม้มองว่าบริษัทมีการตั้งสำรองที่เพียงพอต่อ TFRS9 แต่จากความระมัดระวังคาดว่าบริษัทจะยังคงตั้งสำรองส่วนเกินใน Q2/61 โดยคิดเป็น Credit Cost ที่ 1,062 bps และในกรณีที่บริษัทตั้งสำรองไม่เพียงพอต่อ TFRS9 มองว่าบริษัทจะบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียวเมื่อมีการบังคับเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ มองว่ากฎหมายที่จะออกมาบังคับธุรกิจทางการเงินในอนาคตนั้น ไม่มีผลกระทบต่อ THANI อย่างมีนัย เนื่องจาก 1) กฎหมายใหม่นี้จะมีผลกระทบต่อสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก ในขณะที่บริษัทมีการปล่อยสินเชื่อให้แก่นิติบุคคลสูงกว่า 70%, 2) บริษัทมีการคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 7% ต่ำกว่าที่ประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ควบคุมที่ 15% และ 3) ค่าใช้จ่ายที่จากการติดตามทวงถามหนี้ บริษัทไม่ได้เรียกเก็บมากเกินความเป็นจริง