นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เปิดเผยในที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 วันนี้ ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) จะเติบโตเป็น 2 เท่าในปี 65 จากปีก่อนอยู่ที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการลงทุนเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เช่น เข้าซื้อธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ในประเทศเม็กซิโกและฝรั่งเศส, ขยายกำลังผลิตผลิตภัณฑ์ PTA ในประเทศเนเธอร์แลนด์และโปรตุเกส รวมถึงซื้อกิจการ Gas cracker ในสหรัฐฯ และการขยายกำลังผลิตในประเทศจีนและอินโดนีเซีย เป็นต้น
"บริษัทยังคงมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตของกำไร และยังคงมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการเข้ามาเพิ่มเติมอีก"นายอาลก กล่าว
ทั้งนี้ IVL วางงบลงทุนในช่วง 5 ปี (ปี 61-65) ไว้ที่ 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะเน้นเข้าลงทุนและซื้อกิจการในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) เนื่องจากมีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง และจะใช้ลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นพื่อรองรับกับความต้องการที่จะเข้ามามากขึ้น
นายอาลก กล่าวว่า ธุรกิจโพลีเอสเตอร์ (PET) ยังมีดีมานด์การเติบโตอย่างน้อย 5-6% ต่อปี ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ซัพพลายอยู่ในระดับที่เหมาสม หลังจากโรงงานขนาดใหญ่ในประเทศจีนปิดกิจการไปหลายรายแล้ว ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อปริมาณการผลิตของธุรกิจ PET ของบริษัทจะเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในช่วงปี 61-62 หลังจากปรับปรุงสายการผลิตในปีที่ผ่านมา และโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์ HVA ในธุรกิจเส้นใยและเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์ คาดว่าจะเติบโตในระดับ 6-7% ต่อปี โดยได้รับประโยชน์จากแนวโน้นอุตสาหกรรมในระดับมหภาคที่เติบโตขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ผสม ลักษณะที่มีน้ำหนักเบา และมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคลและความปลอดภัยส่วนบุคคล
"โครงการต่างๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการและมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 61 จะช่วยเพิ่มปริมาณการผลิตและผลกำไร ซึ่งประกอบด้วย โรงงานก๊าซแครกเกอร์แบบ dual-feed ที่ประเทศสหรัฐฯ กำลังการผลิต 4.5 แสนตันต่อปี และโรงงานผลิต PTA ในประเทศโปรตุเกส กำลังการผลิต 7 แสนตันต่อปี รวมถึงในทวีปเอเชีย เรามีการขยายกำลังการผลิตเส้นใยในกลุ่ม HVA สำหรับยานยนต์ ในประเทศจีน โครงการเหล่านี้จะช่วยเสริมผลประกอบการของเราในปีนี้ และสร้างผลกำไรในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ"นายอาลก กล่าว