ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,773.20 จุด ลดลง 6.32 จุด (-0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 48,646.16 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,785.28 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,770.34 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 530 หลักทรัพย์ ลดลง 727 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 478 หลักทรัพย์
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ย่อตัวลง โดยดัชนีฯแกว่งไซด์เวย์ย่ำฐานแต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่ากลัว โดยตลาดฯรับแรงขายทำกำไรจากหุ้นในกลุ่มพลังงานเป็นหลักหลังจากปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงก่อนหน้านี้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยต่างรอดูการประชุมธนาคารกลางในยุโรป (ECB) ในประเด็น QE ส่วนการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ไม่น่าจะมีนัยสำคัญ นอกจากนี้แนะรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 พ.ค.นี้ รอบนี้คาดว่าเฟดคงจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) เร่งตัวขึ้น แต่น่าจะไปปรับขึ้นในการประชุมเดือน มิ.ย.
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (27 เม.ย.) นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ โดยน้ำหนักจะอยู่ที่หุ้นรายตัวจากการหันไปโฟกัสที่ผลประกอบการ อย่างวันนี้หุ้น PTTEP งบฯออกมาดี แต่การที่ราคาหุ้น PTTEP ย่อตัวลงวันนี้เพราะได้ปรับขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้านี้ จึงมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง
พร้อมให้แนวรับ 1,772-1,768 จุด ส่วนแนวต้าน 1,788 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 6,451.41 ล้านบาท ปิดที่ 56.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,385.99 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,286.92 ล้านบาท ปิดที่ 468.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,677.43 ล้านบาท ปิดที่ 97.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,659.53 ล้านบาท ปิดที่ 193.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท