CEO ใหม่ THCOM ลั่นปีนี้รักษากำไร-รายได้ ธุรกิจดาวเทียมยังเป็นหลัก พร้อมมองธุรกิจใหม่กลุ่ม"ดิจิทัล เทคโนโลยี"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 26, 2018 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม (THCOM) ซึ่งจะมีผล 1 พ.ค.61 เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะเน้นการรักษาระดับรายได้และกำไร โดยรายได้หลักยังมาจากธุรกิจดาวเทียม ซึ่งยอดขายในไตรมาส 1/61 เห็นสัญญาณที่ดีขึ้นจากไตรมาส 4/60

อนึ่ง ผลประกอบการ THCOM ในปี 60 มีรายได้ 6,689 ล้านบาท ขาดทุน 2,650 ล้านบาท เทียบกับปี 59 ที่มีรายได้ 8,642 ล้านบาท และมีกำไร 1,612 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทมองหาธุรกิจใหม่ในกลุ่มดิจิทัล เทคโนโลยี ได้แก่ AI, Robot, Drone เป็นต้น โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนใน 6 เดือนข้างหน้า และในช่วง 2-3 ปีนี้ธุรกิจจะแข็งแกร่งขึ้นมา และจะเป็นรายได้หลักทดแทนรายได้จากธุรกอจดาวเทียมใน 5-7 ปีหรือประมาณในปี 66

"รายได้หลักยังคงมาจากกิจการดาวเทียมอยู่ พยายามบริหารจัดการรายได้ และ bottom line ให้ดีที่สุด และเราแสวงหาธุรกิจใหม่" นายอนันต์ กล่าว

นายอนันต์ กล่าวว่า แต่เดิม THCOM มีสินค้าอย่างเดียวและขายให้กับลูกค้ารายใหญ่เท่านั้น แต่ต่อไปจะขยายสินค้าหลากหลาย และเข้าถึงผู้บริโภคในระดับ Retail มากขึ้น

"New Business เราจะทำให้ได้2-3 ปีนี้ ในมุมมองตลาดทุนคุณโชว์ว่าคุณมี Growth ต่อให้มันเล็ก. แต่ถ้ามี Growth ทีชัดและ Trend ที่ชัด ตลาดทุนให้ราคาคุณ ไม่จำเป็นต้องทำรายได้ให้เยอะมากถึง 50% คุณถึงจะมีราคา เพราะถ้าลงทุนในสิ่งที่ใช่และทำในสิ่งที่ใช่ ไม่อย่างนั้นหุ้น Starup ไม่วิ่งปรู๊ด"นายอนันต์ กล่าว

บริษัทจะใช้งบลงทุนราว 100-200 ล้านบาทในปีนี้เพื่อศึกษาการลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยปัจจุบันสภาพคล่องของบริษัทอยู่ในขั้นดี เนื่องจากบริษัทมีกระแสเงินสดจาก EBITDA ปีละ 2-3 พันล้านบาท ทำให้มีเงินสดในมือราว 5-6 พันล้านบาท ขณะที่บริษัทมีเงินกู้ในธุรกิจดาวเทียมราว 6-7 พันล้านบาท

สำหรับดาวเทียมไทยคม 4,5 และ 6 ที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 64 ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อยู่ระหว่างการทำแผนว่าหลังจากสิ้นสุดสัญญาสัมปทานจะดำเนินการอย่างไร รวมทั้งนโยบายของรัฐต่อกิจการดาวเทียมควารจะเป็นอย่างไร เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้เป็นผู้ดำเนินการบริหารดาวเทียมไทยคมต่อหลังสิ้นสุดอายุสัมปทาน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้

"ถ้าโชคดีเราก็ได้ทำต่อ ถ้าโชคไม่ดีก็ส่งมอบให้รายอื่น ทุกวันนี้เราบริหารดาวเทียมบนสมมติฐานได้ดำเนินการไปเรื่อยๆ สุดท้ายคิดว่ากระทรวงก็ต้องหาใครมาทำต่อ เจตนารมณ์เราอยากทำต่อ"นายอนันต์กล่าว

ส่วนดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ก็ยังอยู่ในขั้นตอนอนุญาโตตุลาการ คาดว่าใช้ระยะเวลาพิจารณาค่อนข้างนาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ