นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) หรือ TFEX กล่าวว่า TFEX ได้ดำเนินงานครบรอบ 12 ปีในปีนี้ โดย TFEX มีพัฒนาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านขนาดตลาด ปริมาณธุรกรรมและจำนวนผู้ลงทุน รวมถึงการพัฒนาสินค้าและบริการ โดย ณ สิ้นปี 2560 TFEX มีผลิตภัณฑ์รวม 9 ประเภท ครอบคลุมทั้งอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับตราสารทุน ตราสารหนี้ อัตราแลกเปลี่ยน และสินค้าโภคภัณฑ์ มีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งปีที่ 79 ล้านสัญญา หรือเฉลี่ย 324,217 สัญญาต่อวัน และมีสถานะคงค้าง 2,813,036 สัญญา
ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับตลาดอนุพันธ์ทั่วโลก TFEX มีปริมาณธุรกรรมการซื้อขายอยู่อันดับ 26 สูงขึ้นจากปีก่อนหน้า (ข้อมูลจาก Futures Industry Association (FIA) ซึ่งเป็นสมาคมผู้ประกอบการอนุพันธ์ทั่วโลก) สำหรับสินค้าหลักที่ได้รับความนิยม ได้แก่ SET50 Index Futures, Stock Futures และ Gold Futures ซึ่งมีสัดส่วนซื้อขายรวมกันถึงกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณการซื้อขายทั้งตลาด ในด้านผู้ลงทุนนั้น TFEX นับว่ามีความสมดุล โดยมีสัดส่วนการซื้อขายของผู้ลงทุนบุคคลใกล้เคียงกับสัดส่วนการซื้อขายของผู้ลงทุนสถาบันที่ประมาณร้อยละ 50 ของการซื้อขายรวมและมีจำนวนบัญชีผู้ลงทุน 146,559 บัญชี
"ตลอด 12 ปีในการดำเนินงาน TFEX ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าและบริการ โดยในปี 2561 TFEX ร่วมกับสำนักหักบัญชีได้นำเสนอบริการใหม่ในด้านของการวางหุ้นเป็นหลักประกันเพื่อให้ผู้ลงทุนมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการหลักประกัน และมีแผนเพิ่มหุ้นอ้างอิงของ Stock Futures รวมทั้งปรับปรุงบริการการแลกสินค้าอ้างอิงให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเน้นการส่งเสริมสภาพคล่องในสินค้า SET50 Options, USD Futures และ RSS3D Futures รวมถึงนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำการตลาดเพื่อขยายฐานผู้ลงทุน โดยมีเป้าหมายที่จะให้ราคาใน TFEX เป็นราคาอ้างอิงและทำธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งพัฒนาการเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนให้มูลค่าการซื้อขายรวมใน TFEX ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 70-75 เติบโตไปเทียบเคียงกับมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้น"นางสาวรินใจ กล่าว