ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,782.96 จุด เพิ่มขึ้น 4.94 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 23,838.38 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,784.50 และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,776.94 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยยังรับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน จากการมองโมเมนตัมกำไรยังดีตามราคาน้ำมันที่ทรงตัวถึงปรับเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเข้ามาเล่นเก็งกำไรตามผลประกอบการงวดไตรมาส 1/61 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ทยอยออกมาในช่วงนี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามภาพการลงทุนรวมของตลาดยังไม่ชัดเจน และยังมีปัจจัยถ่วงการลงทุนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงการรอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 1-2 พ.ค.นี้ ซึ่งก็คาดว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพียงแต่ให้รอดูสัญญาณการปรับดอกเบี้ยที่จะส่งออกมาเป็นอย่างไรบ้าง และมีมุมมองด้านเศรษฐกิจอย่างไร อีกทั้งยังต้องติดตามความเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯอีกด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ได้ทั้งในแดนบวก/ลบ ช่วงนี้คงจะต้องเลือกเล่นหุ้นที่มีปัจจัยหนุนไปก่อน พร้อมให้นแนวรับ 1,760 จุด ส่วนแนวต้าน 1,800 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,969.14 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,501.18 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,864.80 ล้านบาท ปิดที่ 36.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KTC มูลค่าการซื้อขาย 1,103.22 ล้านบาท ปิดที่ 363.00 บาท เพิ่มขึ้น 15.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 745.19 ล้านบาท ปิดที่ 87.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง