นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1/61 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 1,248.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 4.1% มาที่ 15,900.33 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขาย จำนวน 14,874.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.23% เป็นไปตามการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจโฮมโปร และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย รวมถึงการเติบโตของยอดขายจากสาขาใหม่ทั้งธุรกิจ โฮมโปร เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย
ขณะที่รายได้จากค่าเช่า และบริการอยู่ที่ 499.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.75% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้ามาร์เกต วิลเลจ อีกทั้งยังมีรายได้อื่น จำนวน 526.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.09% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากค่าบริการ "Home Service"
สำหรับในไตรมาส 1/61 บริษัทมีกำไรขั้นต้น จำนวน 3,990.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 26.01% ในงวดปีก่อน มาอยู่ที่ 26.83% เป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และกลุ่มสินค้า Direct Sourcing รวมถึงธุรกิจเมกาโฮม ที่มีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร จำนวน 3,384.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักของการเพิ่มขึ้นที่เป็นตัวเงินเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินเดือน ต้นทุนในการให้บริการแก่ลูกค้า ต้นทุนค่าขนส่ง และค่าซ่อมแซม อย่างไรก็ตามอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายมีการปรับตัวดีขึ้น โดยลดลงจาก 23.18% ในงวดปีก่อน มาอยู่ที่ 22.75% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายคุณวุฒิ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 61 เศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับตัวไปในทิศทางบวก โดยมีแรงขับเคลื่อนจากแรงส่งจากภาคอุตสาหกรรมจากครึ่งหลังของปี 60 มีผลต่อเนื่องถึงภาคการส่งออก และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในพื้นที่ที่ได้รับอานิสงส์ดังกล่าวโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามราคาพืชผลทางการเกษตรมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในภาคการเกษตรยังคงชะลอตัว ส่งผลให้ยอดขายในบางจังหวัด รวมถึงธุรกิจเมกา โฮม ยังไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น งาน HomePro Expo วันช่วงวันที่ 16-25 มี.ค.61 และการจัด HomePro Fair ที่หาดใหญ่และขอนแก่น ซึ่งมียอดขายโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
"จากสถานการณ์ที่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า บริษัทฯ จึงได้มุ่งเน้นในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพของอัตราการทำกำไรในแต่ละกลุ่มสินค้าให้ดีขึ้น เช่น การเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มสินค้า Direct Sourcing การเลือกสินค้าจากแหล่งต่างๆ ให้ได้ต้นทุนในราคาที่เหมาะสม การเพิ่มคุณภาพของสินค้าให้อยู่ในระดับที่ดีขึ้น การวางแผนการจัดซื้อสินค้า"
นายคุณวุฒิ กล่าวว่า บริษัทยังได้เปิดตัวบริการใหม่ HomePro Service Application ซึ่งใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารสำหรับซื้อบริการ Home service ผ่าน Mobile Application ครอบคลุมงานบริการมากกว่า 40 รายการ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการเติบโตในอนาคตอีกด้วย