นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) หรือเดิมคือบมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการออกร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน โดยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการให้แสดงความเห็นได้ ภายในวันที่ 30 เมษายน 2561 นั้น เห็นว่าร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เป็นประโยชน์ในการกำกับดูแลผู้ที่ให้บริการทางการเงินให้มีมาตรฐาน และคุ้มครองผู้ที่ใช้บริการทางการเงิน
โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์, รถยนต์ และรถเพื่อการเกษตร สามารถบริการธุรกิจได้ทั่วประเทศ เฉพาะนิติบุคคลประเภทบริษัท หรือบริษัทมหาชน โดยเน้นการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) เปิดเผยข้อมูลและไม่ได้จำกัดดอกเบี้ยไว้ที่ 15% แต่ให้คิดดอกเบี้ยรวมค่าบริการ, รวมค่าปรับ และรวมค่าติดตาม ได้ตามความเหมาะสม ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้น โดยภายหลังจากพ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านการพิจารณาจากสภาฯมาแล้ว ผู้ที่มีความสนใจจะประกอบธุรกิจสามารถยื่นขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาต ได้ภายใน 120 วัน ภายหลังจากพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นายชูชาติ กล่าวว่า ขณะนี้นักลงทุนจากต่างประเทศ และนักวิเคราะห์ ได้คลายความกังวลต่อสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่คิดว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะกำหนดให้ผู้ประกอบการคิดดอกเบี้ยได้แค่ 15% เท่านั้น แต่ข้อเท็จจริงจากสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ได้พูดถึงการกำหนดดอกเบี้ยไว้ที่ 15% แต่ได้พูดถึงผู้ประกอบการสามารถคิดดอกเบี้ยรวมค่าบริการอื่นๆ ได้ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ