หุ้น EPG ราคาขยับขึ้น 4% มาอยู่ที่ 7.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 207.35 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.50 น. โดยเปิดตลาดที่ 7.55 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 8 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 7.55 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) ให้ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท คาดกำไรปกติในไตรมาส 4 ปี 60/61 (ม.ค.-มี.ค.61) ที่ระดับ 220 ล้านบาท ลดลง 27% จากงวดปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสก่อน โดยกำไรที่ลดลงเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากต้นทุนวัตถุดิบที่มีราคาสูง ส่วนการเติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน คาดมาจากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นทั้ง 3 ธุรกิจหลัก โดย AFC ได้รับคำสั่งซื้อ EPDM เกรด Premium จากญี่ปุ่น กลับมาสู่ระดับปกติ ประกอบกับการผลักภาระต้นทุนวัตถุดิบให้ลูกค้าไปบางส่วน ซึ่งเห็นผลตั้งแต่เดือนมี.ค.61
ARK ที่มีต้นทุนในการสร้างแม่พิมพ์ใหม่ ถูกบันทึกในไตรมาส 3 ปี 60/61 เกือบหมดแล้ว ประกอบกับการรับรู้รายได้จาก Isuzu เต็มงวด และ EPP ได้ประโยชน์จากฐานต่ำ
ในด้านภาพรวมของไตรมาส 1 ปี 61/62 (เม.ย.-มิ.ย.61) คาดว่ากำไรปกติเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบรายไตรมาส จากการขยายตลาดในฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย, การปรับปรุงไลน์การผลิต และเพิ่มกำลังการผลิตของเครื่องจักรในอเมริกา, การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ในชิ้นส่วนยานยนต์ ที่จะเข้าสู่ท้องตลาดมากขึ้น, การเพิ่ม product line ในตลาด Food Packaging ที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยคาดว่าต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นได้รับผลกระทบจำกัด จาก AFC ได้การปรับราคาขายขึ้นประมาณ 3-5% ซึ่งจะเห็นผลเต็มงวด ส่วน ARK และ EPP มีการควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
พร้อมคงราคาเป้าหมายปี 61/62 ไว้ที่ 9.5 บาท โดยคาดว่า EPG น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 3 ปี 60/61 และจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 60/61 โดยคาดกำไรปกติปี 61/62 และ ปี 62/63 จะกลับมาเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปีจากยอดขายที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น