นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ได้กลับมาดีดตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 3% อีกครั้ง ทำให้เกิดความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งในเดือนมิ.ย.ทางเฟดก็จะมีการประชุมอยู่แล้ว และตลาดฯก็คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
นอกจากนี้ Fund Flow ยังไหลออกอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้น่าสนใจ เพราะมีการไหลออกทั้งในตลาดบอนด์ และตลาดหุ้นด้วย ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกดดันตลาดฯ
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้ดีดขึ้นมาหลังจากที่สหรัฐฯเตรียมจะคว่ำบาตรอิหร่าน ตรงนี้ทำให้ Supply ลดลง และราคาน้ำมันก็มีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นได้ ซึ่งปัจจัยนี้อาจจะช่วยทำให้ดัชนีฯสลับรีบาวด์ได้บ้าง
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยพรุ่งนี้ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของจีน, การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ
พร้อมให้แนวรับ 1,750 จุด ส่วนแนวต้าน 1,765-1,770 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 พ.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,360.21 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด (+0.01%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,671.92 จุด ลดลง 0.71 จุด (-0.03%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,266.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด ( +0.02%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 45.68 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 49.35 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.90 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 15.76 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 1.36 จุด,
ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันเลือกตั้ง
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 พ.ค.61) 1,760.25 จุด ลดลง 19.55 จุด (-1.10%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,834.06 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 พ.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 พ.ค.61) ปิดที่ระดับ 69.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.67 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 พ.ค.61) ที่ 5.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.93 ก่อนอ่อนค่าในรอบเกือบ 4 เดือนมาที่ 32.04 หลังดอลล์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักๆ
- สรท.ปรับคาดการณ์ส่งออกปีนี้แตะ 8% หลังตัวเลขเดือนมี.ค.มูลค่าทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประเมินราคาน้ำมันที่ขยับขึ้น หนุนราคาสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องพุ่งตาม ขณะสินค้าไทยกระจายตลาดส่งออกได้ดีขึ้น พร้อมยื่น 5 ข้อเสนอให้รัฐพิจารณา แนะจับตาสงครามการค้าหวั่นฉุดส่งออกทั้งปีต่ำคาด ด้านผู้ประกอบการยังห่วงบาทแข็งเทียบภูมิภาค
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มอบให้นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เป็นผู้พิจารณาข้อเสนอคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ที่จะขอให้เลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับใหม่ หรือ IFRS9 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2562 ออกไปเป็นปี 2565 เนื่องจากเกรงจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
- คณะกรรมาธิการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และรัฐบาลเร่งรัดให้ กทพ.ดำเนินโครงการต่อขยายโครงการทางด่วนวงแหวนรอบนอก กทม.ด้านตะวันตกไปยังบางใหญ่ ระยะทาง 27 กิโลเมตร (กม.) เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางเข้ากับมอเตอร์เวย์สาย 9 ช่วงบางพลี-สุขสวัสดิ์ ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมเขตชานเมืองและแก้ปัญหารถติดช่วงพระราม 2-บางใหญ่-บางปะอิน
- "ส.อ.ท." ตบเท้าหารือ "ศิริ" รมว.พลังงาน ถึงนโยบายไม่รับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 5 ปีวอนหยุดทันทีธุรกิจป่วนหนักหลังแค่ข่าวออกไปราคาหุ้นรูดแรง แถมแบงก์เริ่มไม่ปล่อยกู้ ลงทุนใหม่ 2.5 หมื่นล้านบาท/ปี ไม่เกิด ขอให้ค่อยเป็นค่อยไป โดย "ศิริ" ยันไม่ปิดกั้นแต่ค่าไฟต้องไม่เกิน 2.44 บาท/หน่วย รับมีเพียงโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำจะทำได้
- กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเว็บเช็ก อัตราภาษีนำเข้าของคู่ค้า FTA รวม 12 กรอบความตกลง 17 ประเทศ เผยตรวจสอบได้กว่า 7 แสนรายการ แนะก่อนส่งออกควรตรวจสอบและขอใช้สิทธิเพื่อสร้างความได้เปรียบให้สินค้า ส่วนยอดใช้สิทธิปี 60 นำเข้า เพิ่ม 6.76% ส่งออกเพิ่ม 15.2%
*หุ้นเด่นวันนี้
- PSL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 17 บาท ล่าสุดดัชนีค่าระวางเรือ BDI ขึ้น 48 จุด ปิดที่ 1,432 จุด สูงสุดในรอบ 4 เดือน เป็นบวกต่อ Sentiment การลงทุนของหุ้นกลุ่มเดินเรือ โดยเฉพาะ PSL ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเดินเรือเกือบ 100%
- RS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 35 บาท ราคาหุ้น -11% MTD จากข่าวทางการจับสำอางผิดกฎหมาย และกสทช.ไม่ให้โฆษณาสินค้าไม่มีอย. ซึ่งสินค้าของ RS ไม่มีปัญหา แต่อาจต้องปรับโฆษณาอาหารเสริมบางตัว และปรับกลยุทธ์มาส่งเสริมการขายเครื่องสำอางมากขึ้น แนวโน้มกำไรปกติ Q1/61 อ่อนลง Q-Q แต่เพิ่มสูง 95% Y-Y กำไรอ่อนลง Q-Q จากรายได้ธุรกิจทีวีดิจิตอลได้รับผลกระทบจากโฆษณาสื่อทีวีที่ซบเซา แต่คาดผลประกอบการตั้งแต่ Q2/61 สดใสขึ้น ขณะที่ ธุรกิจ MPC ยังแกร่งคาด +19% Q-Q, +179% Y-Y ด้านราคาหุ้นลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ราว 10% ซึ่งเป็นระดับที่มักมีการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับอดีต อีกทั้ง ยังเริ่มมีแรงซื้อคืนเมื่อลงแตะเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันวานนี้ด้วย
- TU (ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 22.10 บาท มีกำไรปกติ 748 ล้านบาท (-35% yoy, -36% qoq) สูงกว่าที่คาดไว้ 21.6% แต่ต่ำกว่า consensus 3.5% ทั้งนี้ เชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลง 12% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาน่าจะรับรู้ถึงผลประกอบการ Q1/61 ที่อ่อนตัวแล้วบางส่วน โดยคาดว่า GPM ของ TU จะเพิ่มสูงขึ้นใน Q2/61 จากการที่ปลาทูน่ามีราคาลดลงในเดือนพ.ย. 2560-ก.พ. 2561 และความสำเร็จในการเจรจาปรับราคาสินค้า