นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาม่า มารีน (AMA) กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/61 ชะลอตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนจากการเดินเรือปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะกดดันผลประกอบการโดยรวมในระยะสั้นเท่านั้น และคาดว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นจากในไตรมาสที่ 1 อย่างแน่นอน
อนึ่ง AMA มีกำไรสุทธิ 3.29 ล้านบาท ลดลง 95.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่รายได้จากการขนส่งเพิ่มขึ้น 18.62% มาที่ 384.45 ล้านบาท
นายพิศาล กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 30% จากปีก่อน โดยยังคงเดินหน้าขยายกองเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมี และรถบรรทุกขนส่งน้ำมันเพิ่มเติมเพื่อรองรับตลาดปาล์มน้ำมันที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขยายกองเรือเพิ่มขึ้นอีก 2 ลำ โดยแบ่งเป็นครึ่งปีแรกจำนวน 1 ลำ และครึ่งปีหลังจำนวน 1 ลำ น้ำหนักบรรทุกลำละ 13,000 เดทเวทตัน ด้วยงบลงทุนประมาณ 800 ล้านบาท ส่งผลให้กองเรือบรรทุกน้ำมันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 10 ลำเป็น 12 ลำ และมีน้ำหนักบรรทุกรวม เพิ่มขึ้นจาก 82,961 เดทเวทตัน เป็น 108,961 เดทเวทตัน
ขณะที่บริษัทมีแผนที่จะขยายกองรถบรรทุกขนส่งน้ำมันอีก 30 คัน แบ่งในช่วงไตรมาสที่ 3 จำนวน 10 คัน และไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จำนวน 20 คัน ส่งผลให้กองรถบรรทุกขนส่งน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 180 คัน ปริมาณขนส่งรวมเพิ่มเป็น 8.1 ล้านลิตรฃ
ส่วนแผนในการเข้าซื้อกิจการของบริษัทยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมุ่งเน้นการเข้าซื้อกิจการที่มีความเหมาะสมกับการลงทุน และเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ หรือกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักเพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว