นายเรวัติ หทัยสัตยพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า จากนโยบายการแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ในประเทศตกต่ำ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ด้วยแผนปฏิบัติการ "PS Support" โดยการเร่งผลักดันการส่งออกไข่ไก่ของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) เพื่อระบายผลผลิตไข่ที่เกินกว่าความต้องการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับซีพีเอฟได้รับโควตาจากกรมปศุสัตว์ให้ส่งออกไข่เพิ่มขึ้นอีก 11 ตู้ต่อเดือน รวมกับปกติที่เคยส่งออกอยู่แล้วเดือนละ 10 ตู้ รวมเป็น 21 ตู้ต่อเดือน หรือเดือนละ 6,800,000 ฟอง ไปยังตลาดหลักที่ฮ่องกงและตะวันออกกลาง
"ซีพีเอฟพร้อมสนับสนุนแผนปฏิบัติการของกรมปศุสัตว์อย่างเต็มที่ เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพราคาไข่ไก่ในประเทศที่จะทำให้พี่น้องเกษตรกรทั้งระบบอยู่ได้ ด้วยการลดปริมาณการเลี้ยงไก่ไข่ปู่ย่าพันธุ์และปลดแม่ไก่ยืนกรง พร้อมเดินหน้าส่งออกตามแผนที่กรมปศุสัตว์กำหนด โดยซีพีเอฟกำลังเร่งดำเนินการตามเป้าหมายอย่างเต็มที่" นายเรวัติ กล่าว
แผนปฏิบัติการ "PS Support" ของกรมปศุสัตว์นี้เกิดขึ้น เพื่อเร่งระบายผลผลิตไข่ไก่ส่วนเกินสู่ต่างประเทศ จากปกติประเทศไทยมีการส่งออกไข่ไปต่างประเทศเฉลี่ย 50 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน โดยให้ผู้ประกอบการ 14 ราย มี ทำการส่งออกเพิ่มขึ้นอีกเดือนละ 50 ตู้ รวมเป็น 100 ตู้ต่อเดือน คิดเป็นผลผลิตไข่ไก่เดือนละ 32,000,000 ฟอง มาตรการนี้จะดำเนินการต่อเนื่อง 3 เดือน (เม.ย.-มิ.ย.61) รวมเป็นปริมาณ 300 ตู้ หรือราว 100,000,000 ฟอง
ทั้งนี้ ความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมไก่ไข่ในครั้งนี้ เกิดจากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมปศุสัตว์ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรทั่วประเทศต้องแบกรับภาระขาดทุนตั้งแต่กลางปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เกษตรกรต้องเลิกเลี้ยงไก่ไข่ไปเป็นจำนวนมาก ความร่วมมือจากทุกฝ่ายทำให้ราคาประกาศไข่คละหน้าฟาร์มในปัจจุบันขยับขึ้นมาอยู่ที่ฟองละ 2.80 บาท จากช่วงที่ราคาตกต่ำที่สุดที่ฟองละ 2.20 บาท เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเกษตรกรมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ฟองละ 2.80-2.90 บาท ทั้งนี้ประเทศไทยมีความต้องการบริโภคไข่ไก่ประมาณวันละ 41 ล้านฟอง ขณะที่มีผลผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดวันละ 44 ล้านฟอง