หุ้น MONO ราคาร่วงแรง 12.82% มาอยู่ที่ 3.40 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 152.44 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.23 น. โดยเปิดตลาดที่ 3.70 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.40 บาท
บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) และบริษัทย่อย ประกาศผลดำเนินงานงวดไตรมาส 1/61 มีกำไรสุทธิ 19.47 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.006 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.15 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.007 บาท
พร้อมชี้แจงว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2561 ลดลงจำนวน 3.68 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15.90 โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมประจำไตรมาส 1 ปี 2561 จำนวน 640.15 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2560 ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 647.25 ล้านบาท ลดลงจำนวน 7.10 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.10
ทั้งนี้ รายได้จากการให้บริการผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในไตรมาส 1 ปี 2561 จำนวน 119.65 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2560 จำนวน 213.32 ล้านบาท ลดลง 93.67 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43.91
ส่วนรายได้จากการให้บริการสื่อโฆษณาในไตรมาส 1 ปี 2561 จำนวน 474.60 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2560 จำนวน 376.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 98.36 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.14
การเติบโตของรายได้จากการให้บริการสื่อโฆษณา มาจากรายได้ของธุรกิจทีวีดิจิทัลช่อง MONO29 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนมาจากเรตติ้งที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในไตรมาส 1 ปี 2561 มีเรตติ้งเฉลี่ย 1.046 เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2560 ที่มีเรตติ้งเฉลี่ย 0.842 และปัจจุบันในเดือน เมษายน 2561 ช่อง MONO29 มีเรตติ้งเฉลี่ย 1.068 เป็นลำดับที่ 3 จากจำนวนช่องฟรีทีวีทั้งหมด (ข้อมูลจาก AGB Nielsen, Rating 4+ 18 hrs.)
ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่าอยู่ระหว่างทบทวนปรับประมาณการ โดยจะปรับลดประมาณการรายได้ธุรกิจให้บริการข้อมูลโทรศัพท์เคลื่อนที่ ราว 20% และผลบวกจากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลที่ลดค่าเช่าโครงข่าย 50% ได้ประโยชน์ราว 25 ล้านบาทในปี 61-62 และหาก MONO ขอรับมาตราการพักชำระค่าใบอนุญาต 3 ปี มีผลบวกต่อกำไรก่อนภาษีราว 214 ล้านบาท/ปี เบื้องต้นประเมินว่าการปรัปประมาณการ 2 ส่วนนี้จะกระทบต่อประมาณการกำไรในปี 61 เพิ่มขึ้นราว 136 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 38%