หุ้น CPT ราคาร่วงลง 11.57% มาอยู่ที่ 1.91 บาท ลดลง 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 4.34 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.13 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.00 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.85 บาท
บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ (CPT) ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/61 มีกำไรสุทธิ 1.04 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.0012 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 24.18 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.0384 บาท
พร้อมชี้แจงว่า งวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 และ 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1.04 ล้านบาทและ 24.18 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสาหรับปีเท่ากับร้อยละ 0.56 และ ร้อยละ 9.44 ต่อรายได้รวม โดยมีกำไรสำหรับงวดลดลง คิดเป็นร้อยละ 95.70 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากรายได้ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2560
รายได้จากการขาย สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 และ 2560 จำนวน 141.49 ล้านบาท และ 215.00 ล้านบาท ตามลำดับ โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าโรงงานน้ำตาล โรงงานปูนซีเมนต์ โรงงานกระดาษ โรงไฟฟ้า และ โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น และรายได้ส่วนใหญ่ก็มาจากกลุ่มโรงงานน้ำตาล ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวตามโรงงานน้ำตาล รวมถึงการขยายตัวของลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตเครื่องจักร และผู้ผลิตยางรถยนต์ เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีลูกค้าผู้รับเหมาและลูกค้าที่เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งเป็นสินค้าพวกสายไฟทองแดง (Busduct) และมอเตอร์
ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับปี 2560 เนื่องจากสิ้นปี 2559 มีสินค้าที่ส่งมอบแล้วแต่อยู่ระหว่างการตรวจรับมอบงาน จึงต้องมารับรู้รายได้ในไตรมาส 1/2560 โดยเป็นงานประกอบตู้ควบคุมไฟฟ้าเพื่อขายและขายสินค้าสาเร็จรูปประเภทมอเตอร์ให้ลูกค้ารายหลัก ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มโรงงานน้ำตาล (ลูกค้าขยายโรงงานซื้อทั้งตู้ควบคุมไฟฟ้า (Panel) และมอเตอร์ (Unit)) จำนวน 75.74 ล้านบาท หากไม่รวมรายได้ดังกล่าวแล้วรายได้ทั้ง 2 ไตรมาสจะมีมูลค่าใกล้เคียงกัน
รายได้จากการให้บริการรับเหมาและติดตั้ง สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 และ 2560 เท่ากับ 37.27 ล้านบาท และ 26.74 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2560 โดยปี 2561 มีขั้นความสำเร็จของงานที่อยู่ระหว่างการรับเหมาและติดตั้งมากกว่าในไตรมาส 1 ปี 2560
รายได้จากการให้บริการ สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 และ 2560 จำนวน 4.03 ล้านบาท และ 12.87 ล้านบาท ตามลำดับ ในปี 2560 เป็นช่วงที่ลูกค้าซื้อสินค้าสำเร็จรูปพร้อมติดตั้ง (Service) ทดแทนของเดิมและบางรายเป็นการให้บริการซ่อมแซมด้วย (Repair) สาหรับรายได้ในส่วนนี้จะเป็นกลุ่มลูกค้ารายเดิมสำหรับทุกอุตสาหกรรม เช่น โรงงานน้ำตาล โรงกระดาษ และโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีจำนวนงานและมูลค่างานที่ฝ่ายบริการได้เข้าไปให้บริการเสร็จสิ้นแล้วมากกว่าปี 2561
ต้นทุนขาย ของบริษัท สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 และ 2560 มีมูลค่าเท่ากับ 106.96 ล้านบาท และ 160.89 ล้านบาท ตามลาดับ คิดเป็น ร้อยละ 57.42 และร้อยละ 62.78 ต่อรายได้รวมตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 24.40 และ ร้อยละ 25.17 ตามลาดับ พบว่ามีอัตรากำไรขั้นต้นใกล้เคียงกัน