นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนปีนี้ราว 500-600 ล้านบาทเพื่อซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มคิดเป็นมูลค่าหนี้ราว 4-6 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้มูลหนี้ที่อยู่ภายใต้การลงทุนและการบริหารของบริษัท ณ สิ้นปี 61 จะทะลุ 3.3 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อสินทรัพย์ของบริษัทในปีนี้จะเพิ่มเป็น 1 พันล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 400 ล้านบาท
อีกทั้งบริษัทก็อยู่ระหว่างดำเนินการขายหนี้ทอดตลาด คาดว่าจะสามารถขายได้ในช่วงไตรมาส 2/61 หรือไตรมาส 3/61 ส่งผลทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที
"แผนซื้อหนี้ในปีนี้เราจะใช้เงินที่ได้จากการ IPO ประมาณ 380 ล้านบาท และการกู้จากสถาบันทางการเงินอีก 200-300 ล้านบาท แบ่งเป็น ใช้ในการซื้อหนี้ที่มีหลักประกัน 400 ล้านบาท และหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน 200 ล้านบาท โดยจะเข้าซื้อหนี้เสียในปีนี้ทั้งสิ้น 4-6 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามมองปีนี้จะมีการปล่อยสินเชื่อในระบบมากถึง 4.5 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนี้ NPL อยู่ที่ 3% แบ่งเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน 1.2 แสนล้านบาท และไม่มีหลักประกัน 3 แสนล้านบาท"นายสุขสันต์ กล่าว
บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 61 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สิน และการซื้อหนี้เข้ามาบริหาร ทั้งหนี้ที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเข้าประมูลซื้อพอร์ตสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในไตรมาส 2/61 หรือต้นไตรมาส 3/61 หลังจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทได้ซื้อหนี้สีย ซึ่งเป็นหนี้ที่มีหลักประกัน 138 ล้านบาทเข้ามาบริหารเพิ่ม อย่างไรก็ตาม เมื่อซื้อหนี้ NPL เข้ามาได้ตามแผนจะส่งผลให้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ถึงต้นปี 62 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
"ปีนี้สัดส่วนรายได้ของเราคงไม่เปลี่ยนจากเดิมมากนัก ซึ่งจะมาจากงานบริการ 18%, Call center 3% และที่เหลือคือ การซื้อหนี้เข้ามาบริหาร โดยส่วนใหญ่บริษัทฯ จะเข้าซื้อหนี้จากแบงค์เข้ามาเป็นหลัก ขณะที่ก็อยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อหนี้จากสินทรัพย์ประเภทอื่นเพิ่มเติมด้วย เช่น สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อธุรกิจ SME และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่"นายสุขสันต์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 บริษัทมองว่ารายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้น รับผลดีจากการซื้อหนี้เข้ามาบริหารในช่วงไตรมาส 4/60 ซึ่งบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้เป็นต้นไป