นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บมจ. แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทได้รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 ผลประกอบการหลักมาจากยอดขายที่ยังคงขยายตัวดี โดยบริษัทมียอดขายรวมกว่า 4,039 ล้านบาท ยอดขายหลักมาจากโครงการแนวราบที่พบว่าบ้านเดี่ยวเติบโตดี มียอดขายรวม 3,601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสก่อน
สาเหตุหลักที่เซกเมนต์บ้านเดี่ยวเติบโตได้ดีมาจากกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวที่ตอบรับไลฟสไตล์การอยู่อาศัยรวมทั้งความสำเร็จจากการพัฒนาโปรดักส์ภายใต้แนวคิด เติมเต็มการอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ (Complete your living experience) ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด
นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/61 บริษัทยังมีบริษัทมีรายได้รวม 5,278 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 251 ล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปี บริษัทยังมีแผนการโอนคอนโดมิเนียมอีกถึง 4 โครงการ ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการที่ดีตามแผนงานที่วางไว้ โดยในช่วงไตรมาสที่เหลือต่อจากนี้ ผลประกอบการของแสนสิริจะทยอยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรกซึ่งนับเป็นฐานการเติบโตของบริษัทในปี 2561
"ในไตรมาส 2/61 บริษัทยังมีการรับรู้กำไรทันทีจากการโอน 2 โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับบีทีเอส ได้แก่ คอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ "เดอะไลน์ ราชเทวี" (The Line Ratchathewi) มูลค่า 3,014 ล้านบาท จำนวน 231 ยูนิต ซึ่งปิดการขายและพัฒนาโครงการแล้วเสร็จ 100% รวมถึงการรับรู้กำไรจากการโอนโครงการ เดอะไลน์ วงศ์สว่าง มูลค่า 4,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จก่อนขายที่ได้เปิดตัวในช่วงต้นปี" นายวันจักร์ กล่าว
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการใหม่อีก 27 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 16 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 11 โครงการ โดยแผนงานในช่วงไตรมาสที่ 2 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการใหม่ มูลค่า 15,200 ล้านบาท
นายวันจักร์ กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทได้ทยอยเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ในตลาดต่างจังหวัด อาทิ ลา กาสิตา (La casita) มูลค่าโครงการ 2,300 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า ขณะนี้มียอดขายไปแล้วถึง 80% แล้ว รวมถึงล่าสุดบริษัทยังประสบความสำเร็จจากการเปิดการขาย "สิริ เพลส" ทาวน์เฮาส์คุณภาพในระดับ Best in Class ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.69 ล้านบาทภายใต้แนวคิด "ขยายทุกความชอบให้เป็นไปได้" ใน 8 ทำเลศักยภาพ โดยบริษัทได้เปิดพรีเซลล์ 2 โครงการแรก ได้แก่ สิริ เพลส รังสิต และสิริ เพลส นวนคร ในช่วงเสาร์ – อาทิตย์ ที่ผ่านมา ปรากฎว่าลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมาก สนใจเข้าดูโครงการอย่างล้นหลามและวางเงินจอง จนสามารถสร้างยอดขายไปได้ถึงเกือบ 1,000 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 2 วันในทั้ง 2 โครงการ
จากยอดขายที่ดีรวมถึงความมั่นใจในเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้เป็น 4.1% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 3.9% ซึ่งจะส่งผลให้ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนและการขยายธุรกิจมากขึ้น กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อที่ดี บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย 45,000 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน