นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) กล่าวว่า แม้บริษัทคาดการณ์ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 61 จะมีอัตราการเติบโตไม่มากนักราว 3-5% แต่ด้วยกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ ประกอบกับการบริหารงานอย่างมืออาชีพ จึงมีความเชื่อมั่นว่าในปีนี้จะเป็นอีกปีที่บริษัทสามารถเติบโตได้สูงกว่าอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องเช่นเคย โดยในไตรมาสแรกนี้บริษัทมียอดรับรู้รายได้ที่ 962.1 ล้านบาท ซึ่งเติบโตได้ราว 45% ในขณะที่ยอดขายสามารถทำได้ราว 1,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 39.9% ซึ่งสูงเป็นลำดับต้นๆ ของบริษัทในตลาดฯ ในส่วนของต้นทุนการขายและบริหาร บริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ในไตรมาสแรกนี้บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 182.2 ล้านบาท ขยายตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 60%
สำหรับการขยายธุรกิจในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปทั้งสิ้น 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท โดยในไตรมาสสองมีแผนที่จะเปิดอีก 1-2 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจในปีนี้ที่จะมีการเปิดโครงการใหม่ 8 – 10 โครงการ มูลค่ารวม 4,500-5,000 ล้านบาท
ในแง่ของโครงสร้างเงินทุน แม้ว่าบริษัทจะมีการขยายธุรกิจอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่บริษัทยังคงรักษาระดับ Gearing ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดย ณ สิ้นไตรมาสแรกนี้บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) อยู่ที่ 0.82 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.3-1.4 เท่า สะท้อนความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท และความพร้อมในการขยายธุรกิจของทางบริษัทได้เป็นอย่างดี