นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/61 และทั้งปีนี้ยังมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ที่ได้วางไว้ โดยตั้งเป้ารายได้ทั้งปีไว้ที่ 4,985 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากปีก่อน โดยเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ด้านโทรคมนาคมมูลค่าราว 4,000 ล้านบาท โดยจะเน้นงานติดตั้งโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง ให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต รวมทั้งโครงการภาครัฐอีกหลายโครงการ
ขณะเดียวกันการปรับกลยุทธ์ธุรกิจ ทั้งการต่อรองต้นทุนสินค้าจากต่างประเทศในธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญานและกลยุทธ์การควบคุมต้นทุนในโครงการที่กำลังทำอยู่ โดยเฉพาะโครงการวางสายร้อยท่อสาธารณูปโภคในสนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีมูลค่างานคงค้างรอการรับรู้รายได้ 1,105.93 ล้านบาท และการให้บริการของธุรกิจโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ กำไรก่อนหักภาษีดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา (EBITDA ) ของบริษัทมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ เป็นผลดีต่อธุรกิจในภาพรวม โดยที่ผ่านมาบริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นและเงินสด เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้น โดยวางตำแหน่งหุ้น ILINK เป็นหุ้นที่มีการเติบโตต่อเนื่องและปันผลให้ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ
"แนวโน้มธุรกิจของบริษัทยังคงมีโอกาสเติบโตที่ดีและสดใสในทุกกลุ่มธุรกิจ เพราะมีส่วนในการสนับสนุนและสอดรับกับนโยบายภาครัฐ ที่มุ่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เพื่อนำพาประเทศไทยก้าวสู่ยุค Thailand 4.0" นายสมบัติกล่าว
ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯไตรมาส 1/61 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวม 1,337.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 548.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 69.50% เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไร 69.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 259.97% ทั้งนี้ เป็นผลจากธุรกิจหลักทั้ง 3 กลุ่ม มีผลประกอบการเติบโตขึ้นทั้งหมด ทั้งในธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Distribution) ธุรกิจวิศวกรรมและโครงการพิเศษ (Engineering) และธุรกิจโทรคมนาคม (Telecom)
สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ ไตรมาส 1/2561 รับรู้รายได้รวม 522.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 36.50ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.50% เป็นผลจากการที่บริษัทฯ ยังสามารถรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งโดยมีการเปิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ อุปกรณ์ส่งสัญญาณ (Access Equipment) มาจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่นี้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลง จึงเป็นโอกาสที่จะเข้ามาเสริมรายได้ในธุรกิจจัดจำหน่ายของบริษัทฯ ให้ขยายตัวได้ในระยะยาวต่อไป
ส่วนธุรกิจวิศวกรรมและโครงการพิเศษ ไตรมาสนี้มีรายได้รวม 449.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 341.21ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 315.74% เนื่องจากเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) 363 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส1/2561 ยังมียอดรายได้คงค้างรอการรับรู้ (Backlog) อีกมูลค่า 3,193.66 ล้านบาท
ขณะที่ ธุรกิจโทรคมนาคมมีรายได้ดังนี้ 1.การให้บริการเช่าวงจรและพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ 161.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30.90 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23.63% เนื่องจากฐานลูกค้าเช่าวงจรเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่บริการเช่าพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ ปัจจุบันมีอัตราการเข้าใช้งานสูงถึง 95%
และ 2. รายได้จากการรับเหมาติดตั้งวงจรโครงข่าย 194.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 143.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 284.49% ซึ่งแหล่งรับรู้รายได้หลักของธุรกิจนี้มาจากโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบ 176.63 ล้านบาท โดยยังมีรายได้รอการรับรู้ของโครงการนี้อีก 226.53 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้ในช่วงที่เหลือของปี 61