ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,765.19 จุด ลดลง 7.91 จุด (-0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 32,501.54 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,774.71 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,762.77 จุด
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตวลง จากความกังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond yield) อายุ 10 ปี ได้กลับมาพุ่งขึ้นระดับ 3% ทำให้กังวลการไหลออกของ Fund Flow ประกอบกับช่วงเช้าที่ผ่านมาเงินบาทก็อ่อนค่าลงด้วยซึ่งสอดล้องกับ Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้นไป
นอกจากนี้ ดัชนีฯปรับตัวลงยังมาจาก Sell on fact ตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาด้วย ซึ่งก็มีทั้งออกมามีผลกำไรดี และมีผลกำไรที่ไม่ดี
ด้านนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway down รับแรงกดดันจาก MSCI Thailand ได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนลงเล็กน้อย แต่ดัชนีฯก็ยังไม่หลุดแนว 1,760 จุด ก็ถือว่ายังใช้ได้
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยให้รอดูยอดค้าปลีกของสหรัฐฯในคืนนี้ ถ้าออกมาไม่ดีก็มีแนวโน้มที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯจะไม่แข็งค่า และดีต่อ Fund Flow ในตลาดเอเชีย รวมถึงตลาดบ้านเราด้วย พร้อมให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันพรุ่งนี้ ตลาดฯคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,760-1,780 จุด
ส่วนนายชัยยศ คาดว่า ตลาดฯคงจะยังอยู่ในแดนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,760 จุด ส่วนแนวต้าน 1,775-1,780 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,599.94 ล้านบาท ปิดที่ 24.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,541.14 ล้านบาท ปิดที่ 56.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,065.91 ล้านบาท ปิดที่ 20.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
LH มูลค่าการซื้อขาย 1,379.16 ล้านบาท ปิดที่ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,029.34 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 2.75 บาท