บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) และกลุ่มเชฟรอน เป็นสองผู้ประกอบการที่เดินทางมายื่นเอกสารเข้าร่วมการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นเพื่อคัดเลือกเข้าร่วมประมูลยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม G1/61 (เอราวัณ) และ G2/61 (บงกช) ในวันแรกที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเปิดให้ยื่นเอกสาร โดยกลุ่มเชฟรอน ยังคงมั่นใจว่าจะมีข้อเสนอที่ดีที่สุดเพื่อให้สามารถเป็นผู้ชนะการประมูลครั้งนี้
ช่วงบายวันนี้นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด พร้อมคณะได้เดินทางมายื่นเอกสาร โดยภายหลังการตรวจสอบเอกสารแล้วเสร็จ นายไพโรจน์ เปิดเผยว่า กลุ่มเชฟรอนได้ยื่นเอกสารทั้ง 2 แปลง ซึ่งการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นมีความครบถ้วนตามที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ เชฟรอน ได้ยื่นเอกสารเพื่อเข้าร่วมพิจารณาคุณสมบัติทั้ง 2 แปลง เพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ โดยเบื้องต้นจะเข้าประมูลแหล่งเอราวัณ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้รับสัมปทานและเป็นผู้ดำเนินการ (operator) ส่วนแหล่งบงกชซึ่งมี PTTEP เป็น operator นั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจจะยื่นประมูล เพราะยังต้องรอดูข้อมูลของแหล่งดังกล่าวก่อน อย่างไรก็ตามบริษัทมีความมั่นใจว่าจะมีข้อเสนอที่จะทำให้มีโอกาสชนะประมูลแหล่งปิโตรเลียมครั้งนี้
"วันนี้เรามายื่นเอกสารทั้ง 2 แปลงในฐานะ operator เรายังมั่นใจประสบการณ์...เราจะทำให้ดีที่สุด ในเรื่องของข้อเสนอที่จะทำให้เราชนะได้"นายไพโรจน์ กล่าว
นายไพโรจน์ กล่าวว่า สำหรับการประมูลแหล่งปิโตรเลียมครั้งนี้จะมีพันธมิตรเข้าร่วมประมูลหรือไม่นั้น ทางเชฟรอน ยังคงให้น้ำหนักกับผู้ประกอบการที่เป็นพันธมิตรรายเดิมในแหล่งเอราวัณ รวมถึง PTTEP ที่ถือหุ้นอยู่ 5% ด้วย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาเงื่อนไขรายละเอียดอยู่หลังจากก่อนหน้านี้ PTTEP ได้ขอเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในแหล่งดังกล่าว ส่วนการยื่นข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมประมูลนั้นจะมีความชัดเจนในวันเปิดให้ยื่นประมูลวันที่ 25 ก.ย.นี้
สัญญาการประมูลแหล่งปิโตรเลียมครั้งนี้เข้าใจว่าจะมีการเซ็นสัญญาเป็นเวลา 20 ปีตามที่แสดงไว้ในเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) ซึ่งภาครัฐกำหนดไว้ว่าในช่วง 10 ปีแรกให้รักษาระดับการผลิตขั้นต่ำ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน สำหรับแหล่งเอราวัณ และระดับการผลิตขั้นต่ำ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน สำหรับแหล่งบงกช ส่วน 10 ปีหลังจากนั้นก็จะไม่มีการกำหนดขั้นต่ำของการผลิต
ด้านนางสาวคณิตา ศาศวัตายุ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ 1 ของ PTTEP กล่าวว่า บริษัทได้มายื่นเอกสารเพื่อเข้าร่วมพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นทั้ง 2 แหล่งที่รัฐบาลเปิดประมูล ซึ่งจากที่มีผู้มาแสดงเจตจำนงเพื่อเข้าร่วมพิจารณาคุณสมบัติประมูลจำนวน 6 รายก่อนหน้านี้ ทำให้เห็นว่ามีการแข่งขันที่ดี ซึ่งบริษัทก็ได้เตรียมความพร้อมเต็มที่
อนึ่ง รัฐบาลอยู่ระหว่างขั้นตอนการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณ และบงกช ที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 65-66 โดยเป็นการเปิดประมูลภายใต้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) โดยเมื่อวันที่ 4 พ.ค.เปิดให้ยื่นแบบฟอร์มแสดงความจำนงเข้าร่วมพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (Pre-Qualification: PQ) ซึ่งมีผู้มายื่นแบบฟอร์มทั้งหมด 6 ราย ขณะที่ในวันที่ 15-16 พ.ค.เปิดให้มายื่นเอกสาร PQ ก่อนจะประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นในวันที่ 28 พ.ค.61
หลังจากนั้นผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจะจัดเตรียมการยื่นข้อเสนอเพื่อเข้าประมูลระหว่างวันที่ 7 มิ.ย.-21 ก.ย.61 และให้ยื่นข้อเสนอการประมูลในวันที่ 25 ก.ย.61 ขณะที่คาดว่าจะได้ผู้ชนะการประมูลในเดือน ธ.ค.61 และลงนามในสัญญาเดือน ก.พ.62