หุ้น SAWAD ราคาร่วงหนัก 17.14% มาอยู่ที่ 36.25 บาท ลดลง 7.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายสูงถึง 694.08 ล้านบาท ในช่วงต้นภาคเช้าเมื่อเวลา 10.40 น.โดยเปิดตลาดที่ 37.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 37.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 35.25 บาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯ บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) ให้ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท มองว่าบริษัทยังคงมีความเสี่ยงจากอัตราผลตอบแทนที่ลดลง, NPLs ที่อ่อนตัวลงเล็กน้อย, Coverage ratio ที่ต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่ง (Q1/61 อยู่ที่ 52%) ส่งผลให้บริษัทยังจะต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวมองว่าบริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อที่สูง และการกลับมาของอัตราผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนความเสี่ยงในระยะสั้นเหล่านี้แล้ว จึงแนะนำ "ถือ"
ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 61-62 ลดลง 25% และ 34% อยู่ที่ 2.5 และ 2.7 พันล้านบาท โดยจากการปรับเปลี่ยนคู่สัญญาใน Q1/61 จาก SAWAD2014 เป็น BFIT ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของสินเชื่อลดลง มองว่าบริษัทจะยังคงรับรู้รายได้ดอกเบี้ยตามอัตรานี้ไปจนครบอายุสัญญาสินเชื่อเดิมก่อนที่จะกลับมาสู่ระดับปกติในอนาคต จึงปรับลดอัตราข้างต้นอยู่ที่ 23% จากเดิม 25% และได้ปรับเพิ่ม NPLs ปี 61 ที่ 5.4% จากเดิม 4.3% จากการบริหารจัดการสินเชื่อของบริษัทที่มีประสิทธิภาพลดลง ส่งผลให้บริษัทตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 530 ล้านบาท คิดเป็น Credit Cost 174 bps
บริษัทรายงานกำไรสุทธิ Q1/61 อยู่ที่ 565 ล้านบาท (-36%YoY, +5%QoQ) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด หรือคิดเป็น -4%YoY, +5%QoQ ของกำไรจากการดำเนินงานปกติ (หักกำไรจากการโอนเปลี่ยนประเภทเงินลงทุน และรายได้จากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมจากการซื้อ BFIT ใน Q1/60) โดยเป็นผลจาก 1) การตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 76 ล้านบาท (+88%YoY, -59%QoQ) ตามการขยายตัวของสินเชื่อที่บริษัทปล่อยผ่านทาง BFIT เป็นหลัก และ NPLs Ratio ที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 8.0% (Q1/60 4.6%, Q4/60 4.7%) และ 2) สินเชื่อ Q1/61 จะขยายตัว 2.7%YTD แต่จากอัตราผลตอบแทนที่ลดลงอยู่ที่ 21% จากเดิมที่ 25% ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยทรงตัวที่ +4%YoY, -1%QoQ