TPBI คาดผลงานฟื้นใน Q2/61 รับปัจจัยหนุนกลยุทธ์ Transformation เริ่มเห็นผล-ปรับขึ้นราคาดันมาร์จิ้นหลังต้นทุนเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 16, 2018 10:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกมล บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ทีพีบีไอ (TPBI) คาดว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้น จากไตรมาส 1/61 ที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทเชื่อว่าการดำเนินกลยุทธ์ทรานฟอร์เมชั่นธุรกิจในกลุ่มบรรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภท General Packaging จะเริ่มเห็นผลตั้งแต่ไตรมาสนี้เป็นต้นไป โดยบริษัทเตรียมพัฒนานวัตกรรมสินค้าบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อเทรนด์ตลาดโลกที่เปลี่ยนไปเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนให้ผลประกอบการของบริษัทเริ่มมีการเติบโตขึ้นตามไปด้วย

"การทรานฟอร์เมชั่นของบริษัทจะช่วยสร้างความยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นได้ดีขึ้น โดยปัจจุบันสินค้ากลุ่มดังกล่าวเริ่มเข้ามาชดเชยการชะลอตัวคำสั่งซื้อถุงหูหิ้วแบบเดิมอย่างเห็นได้ชัดแล้ว"นายกมล กล่าว

อีกทั้งบริษัทยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ High Value Added ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน สำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภค (Flexible Packaging) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตรากำไรสูงกว่า โดยจะเริ่มเดินเครื่องจักรเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคจากโรงงานแห่งใหม่ปลายไตรมาส 2/61 ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 100 ล้านเมตร/ปี

และได้เริ่มโครงการขยายกำลังการผลิตกลุ่ม Multilayer Blown Film แล้วในไตรมาส 2/61 โดยโครงการดังกล่าวจะทำให้กำลังการผลิตกลุ่ม Multilayer Blown Film มีกำลังเพิ่มขึ้นอีก 2,500 ตัน/ปี จากเดิมที่มีกำลังการผลิตรวม 9,000 ตันต่อปี ซึ่งทั้งสองโครงการจะเข้ามาช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง

บริษัทยังมีเป้าหมายจะผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นให้ฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 10% หลังจากไตรมาส 1/61 ลดลงไปที่ 6.58% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 10.53% และไตรมาส 1/60 ที่ 11.47% เป็นผลมาจากต้นทุนเม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้น ซึ่งตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้นไปแล้วราว 10% ซึ่งบริษัทจะปรับเพิ่มราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนเพื่อรักษาให้อัตรากำไรขั้นต้นกลับคืนมาสู่ระดับเดิม

สำหรับความคืบหน้าของการซื้อกิจการที่เกี่ยวเนื่องนั้น ปัจจุบันบันยังอยู่ระหว่างการเจรจาและพิจารณาความคุ้มค่าของการลงทุน ซึ่งบริษัทได้เจรจาเพื่อซื้อกิจการในอาเซียนและยุโรป โดยจะพิจารณาว่าการลงทุนในที่ใดจะคุ้มค่ามากที่สุด คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3/61 ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนรวมงบสำหรับการซื้อกิจการไว้ที่ 700-800 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ