SABINA ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% เชื่อ Q2/61 โตต่อเนื่องรับอานิสงส์บาทอ่อน-ออกแคมเปญกระตุ้นยอดขาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 16, 2018 12:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซาบีน่า (SABINA) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 15% เป็นไปตามการเติบโตของทุกช่องทางการจำหน่ายของ 4 ส่วนหลัก ได้แก่ การจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ซาบีน่าผ่านช่องทางรีเทลทั้งเคาน์เตอร์และซาบีน่าช็อปในห้างสรรพสินค้า โดยคาดว่ายอดขายปีนี้จะเติบโต 7%, การจำหน่ายผ่าน นอน สโตร์ รีเทลลิ่ง (Non Store Retailing) ที่เน้นช่องทางออนไลน์ คาดว่าจะเติบโต 150% และการส่งออกชุดชั้นในแบรนด์ซาบีน่าไปยังประเทศต่างๆ ที่คาดจะเติบโต 26% รวมถึงการรับจ้างผลิตเพื่อการส่งออก (OEM) ที่คาดจะเติบโต 35%

ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนยอดขายและรายได้มาจากแบรนด์ประมาณ 88%, OEM 10% และแบรนด์เพื่อการส่งออก 2%

"นอกจากการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นการขายในประเทศแล้ว ในปีนี้เราจะขยายจุดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย คือ เวียดนามจะขยายเพิ่มอีก 2 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 52 แห่ง, ฟิลิปปินส์ เพิ่มอีก 3 แห่ง จากเดิมมี 27 แห่ง, เมียนมาร์ เพิ่มอีก 1 แห่ง จากเดิมมีอยู่ 10 แห่ง, บังคลาเทศ เพิ่มอีก 6 แห่ง จากเดิม 4 แห่ง และปากีสถาน 1 แห่ง จากเดิม 9 แห่ง"

ทั้งนี้ ผลการดำเนินในไตรมาสแรกที่ผ่านมายอดขายมีการเติบโตได้ดี และเชื่อว่าแนวโน้มในไตรมาสที่ 2/61 ยอดขายน่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้รายได้จากการส่งออกของแบรนด์ และ OEM เพื่อการส่งออกดีขึ้น ซึ่งออเดอร์จากการ OEM มีรองรับไปจนถึงสิ้นปี ประกอบกับการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งในไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ เตรียมออกแคมเปญโฆษณาใหม่และสินค้าใหม่เพิ่มเติมอีกเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตมากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้ากำลังการผลิตปี 61 จะเพิ่มขึ้นมาที่ 1.09 ล้านชิ้น/เดือน จากไตรมาส 1/61 สามารถทำได้แล้ว 1.02 ล้านชิ้น/เดือน จากสิ้นปี 60 เฉลี่ยอยู่ที่ 8.10 แสนชิ้น/เดือน และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนพนักงานการผลิตชุดชั้นในปีนี้เป็น 1.8 พันคน จากไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.6 พันคนแล้ว เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 1.5 พันคน เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตที่จะเพิ่มขึ้นในปีนี้

นายบุญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทตั้งงบลงทุนด้านการตลาดในปีนี้ไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลังนี้จะมีการออกโฆษณาตัวใหม่เพิ่มอีกจำนวน 2 ครั้ง เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นปี ขณะที่แผนการขยายสาขา บริษัทฯ ยังคงรักษาจำนวนสาขาไว้ที่ 600 สาขาเท่าเดิม โดยจะหันมามุ่งเน้นการขายผ่านออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะเจาะกลุ่มลูกค้าประจำ และขายสินค้าขนาดฟรีไซต์ หรือสินค้าที่ไม่ต้องรองเป็นหลัก ทำให้ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ