ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,754.06 จุด เพิ่มขึ้น 3.44 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 34,640.83 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,757.97 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,745.45 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบทั้งแดนบวกและลบหลังจากร่วงลงแรงเมื่อวานนี้ ดัชนีรีบาวด์กลับขึ้นมารับแรงหนุนจากการซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูง แต่การปรับขึ้นของดัชนีมี Upside จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงติดตามปัจจัยจากภายนอกประเทศ โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) สหรัฐฯ และสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี
นอกจากนี้ ยังรอปัจจัยทางการเมืองในประเทศสัปดาห์หน้าศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติตีความ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งวุฒิสภา (ส.ว.) รวมถึงยังต้องจับตาการลงทุนของต่างชาติหลังจากที่เมื่อวานนี้มียอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยกว่า 2 พันล้านบาท จากก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิออกมาต่อเนื่อง แต่เมื่อวานนี้ก็มีรายการบิ๊กล็อตของหุ้นบางตัวด้วยเช่นกันทำให้ยังไม่มีความชัดเจนต่อทิศทางการลงทุนของต่างชาติ
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวผันผวนในกรอบด้วย Upside ที่ไม่มากนัก โดยให้แนวรับที่ 1,745 จุด และแนวต้านที่ 1,760 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,487.91 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,049.26 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,485.66 ล้านบาท ปิดที่ 7.05 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,567.58 ล้านบาท ปิดที่ 82.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,474.61 ล้านบาท ปิดที่ 21.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท