น.ส.กันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย 10% จากปีก่อนทำได้ 6.05 พันล้านบาท เป็นไปตามจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 1/61 จำนวนนักท่องเที่ยวเติบโต 15% ส่งผลทำให้บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 16% และในประเทศ 8%
ทั้งนี้ บริษัทยังคงประมาณการรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) (ไม่รวมกลุ่ม HOP Inn) ของทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้นราว 4% และคงเป้าอัตราการเข้าพัก (OCC) ในปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 82% จากปีก่อนอยู่ที่ 81%
ขณะที่ในไตรมาสแรกมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 86% โดยมองแนวโน้มไตรมาส 2/61 อัตราการเข้าพักน่าจะปรับตัวลดลง เนื่องจากเป็นช่วงของโลว์ซีซั่นของธุรกิจ ประกอบกับในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ จะมีการปรับปรุงห้องพักโรงแรม เจดับบลิว แมริออท กรุงเทพฯ จากเดิมที่มีการปรับปรุงห้องพักในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4
ส่วนแผนการเปิดโรงแรมในปีนี้ คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 9 แห่ง โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน บริษัทได้เปิดโรงแรมภายใต้แบรนด์ HOP Inn ทั้งในประเทศและต่างประเทศไปแล้วจำนวน 3 แห่ง คือ ใน จ.กระบี่, จ.สุรินทร์ และประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่เตรียมเปิดโรงแรมเพิ่มเติมอีกในครึ่งปีหลังนี้อีก 6 แห่ง แบ่งเป็น ในไตรมาส 3/61 จะเปิดโรงแรมภายใต้แบรนด์ HOP Inn จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ประเทศฟิลลิปปินส์ จำนวน 182 ห้อง, ชลบุรี จำนวน 79 ห้อง ส่วนไตรมาส 4/61 จะเปิดโรงแรมแบรนด์ โนโวเทล สุขุมวิท 4 จำนวน 185 ห้อง, Ibis สไตล์ สุขุมวิท 4 จำนวน 133 ห้อง, Hop Inn เชียงใหม่ 2 จำนวน 79 ห้อง และ HOP Inn ในประเทศฟิลลิปปินส์ จำนวน 167 ห้อง ส่งผลทำให้สิ้นปีบริษัทฯ จะมีโรงแรมทั้งสิ้น 61 แห่ง และมีจำนวนห้องทั้งสิ้น 8.48 พันห้อง เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่จำนวน 53 แห่ง และมีจำนวนห้องอยู่ที่ 7.38 พันห้อง
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้วางงบลงทุนไว้จำนวน 3.2 พันล้านบาท เพื่อจะใช้ในการขยายโรงแรมเพิ่มเติมในปีนี้ และการปรับปรุงห้องพักเดิมที่มีอยู่